โฆษณา

STEM Education ด้วย Social Media by kruweerachat

Tuesday, July 31, 2012

Social Network กับการสื่อสารเพื่อจัดการเรียนการสอน

Social Network กับการสื่อสารเพื่อจัดการเรียนการสอน 

           สวัสดีตอนเช้าครับก่อนไปทำหน้าที่สอนเด็กๆ  วันนี้มีงานวันภาษาไทย ประกวดขับร้อง แต่งกลอน เรียงความ ตอนบ่ายมีการจัดขบวนแห่งเทียนเข้าพรรษาไปถวายที่วัดบ้านซับบอนวัฒนารามซึ่งอยู่ใกล้ๆักับโรงเรียน  เช้าวันนี้ facebook มีนักเรียนอับเดทคอมเม้นก็เลยเข้าไปดูแรกๆดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับเราที่เป็นครู     แต่พอถามไปเรื่อยๆก็รู้สาเหตุแล้วมาจากเรานี่เอง แต่เป็นเรื่องของการเรียนครับ เนื่องจากผมบูรณาการการเรียนการสอนของผม  ซึ่งตอนนี้ ให้ฝึกเขึยนแผนอนุรักษ์พลัีงงานในโรงเรียน ซึ่งต้องใช้ความรู้วิชา ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์ การบริหารจัดการ  ธรมมะ และรวบรวมปัญหาปรับปรุงให้เหมาะสมกับองค์กรของเรามากที่สุด  ซึ่งผมเองก็มีแบบฟอร์มให้เรียบร้อยแต่ดูเหมือนนักเรียนผมจะเครียสเล็กน้อย  จึงต้องมีการพูดคุยกันบ่อยมากขึ้น  ผมใช้ facebook ซึ่งเป็น Social Network เป็นประจำอยู่แล้ว โดยปกติใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร และเรื่องการจักการเรียนการสอน ซึ่งสองเดือนแรกที่ผมมาทำงานผมให้นักเรียนส่งงานทาง facebook ผมก็เลยมี นักเรียนเป็นเพื่อนเยอะแยะ  (ตอนนี้เกือบทั้งโรงเรียนแล้วครับ)  การสั่งงานหรือจัดกิจกรรมบางหลายๆครั้ง Socail Network ตัวนี้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยทำให้เกิดการบอกต่อเล่าต่อแบบปากต่อปากผ่านทาง facebook  ซึ่งเป็นมิติใหม่อีกรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารที่นำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน
           
             จากภาพที่ผมปริ้นสกรีนบทสนทนาที่คอมเ้ม้นกันไปมาของเด็กๆทำให้ผมรู้ว่าผมต้องนัดเด็กๆของผมมานั่งคุยกันเพิ่มเติมแล้ว และต้องใช้สื่อตัวอื่นเข้ามาช่วยเช่น คลิปวีดีโอ ที่ถ่ายกันง่ายๆจากมือถือ  น่าจะทำให้การเรียนมีชีวิตชีวาท้าทายความสามารถของเด็กขึ้นอีกเยอะ

              Social Network กับการสื่อสารเพื่อจัดการเรียนการสอน สำหรับบริบทของโรงเรียนของผมนั้น ตอนนี้เรานำ Social Networkและ Socail Media เข้ามาใช้อย่างเต็มที่ครับ ทั้ง Facebook,blog,youtube  ตอนนี้เด็กๆเราได้สนุกกับการเรียนรู้ด้วยตัวเองในอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มที่และทางโรงเรียนก็จัดทรัพยากรให้เหมาะสมตามกำลังที่เรามีแต่เน้นที่ความคุ้มค่าและให้ใช้กันอย่างทั่วถึง

             คุยกันเรื่องการสื่อสารกันต่อครับ สำหรับผมนั้นจะคุ้นเคยกับคำว่าการสื่อสารทางการตลาดมากกว่าเพราะก่อนหน้านี้มีประสบการณ์ในกาารใช้ Social Network ในการขายสินค้า จองห้องพักและโปรโมทกิจกรรม ของบริษัท ซึ่งโดยส่วนมากเน้นไปทางด้านธุรกิจ  แต่วันนี้ปรับเปลี่ยนงานบริบทหน้าที่ก็เปลี่ยน ผมเองก็ต้องเปลี่ยนตัวเองสักเล็กน้อยครับ เรียนรู้อีกวงการกันนะครับ
             ตามที่เคยศึกษามา มีศัพท์คำหนึ่งคือ  การสื่อสารทางการตลาด   การจัดทำการสื่อสารทางการตลาด เพื่อส่งสารให้กับผู้รับสาร ดูเหมือนจะง่ายๆ แต่ การสื่อสารทางการตลาด บางที่เรียนกันเป็นครอสเลย และมีการสัมนาเรื่องนี้กันบ่อยครั้ง นั่นคือ เรื่องของการ สื่อ-สาร  จะอยู่ในทุกงานทุกอาชีพ มีความสำคัญกับการขับเคลื่อน แนวคิด วิธีคิด วิธีปฎิบัติ   

โครงการแท็บเล็ตของรัฐบาล ถ้ามีส่วนที่เป็น open source

โครงการแท็บเล็ตของรัฐบาล  ถ้ามีส่วนที่เป็น open source แบบ linux  คงน่าจะดี
           วันนี้เปิดเว็บมาอ่านเจอเว็บนี้ดีมากๆครับ เครดิตเว็บเพื่อนครูคนนี้หน่อย http://sompriaw.wordpress.com  ผมหาชื่อเล่นแกยังไม่เจอแต่เนื้อหาในเว็บนี้เยี่ยมมาก ผมลิงค์กลับไปแ้ล้วเรียบร้อยและอยากบอกว่า ยินดีทีไ่ด้รู้จักนะครับ  วัีนนี้ ผมได้รับหนังเมล์เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟแวร์ในที่ใช้ใน tablet แต่ถ้ามองในระยะยาว ซอฟแวร์แบบ Stand alone คงไม่มีสามารถตอบโจทย์ได้ดั่งใจผม แต่ส่วนที่น่าสนใจสำหรับผมคือ web application ที่รันได้ทุก os  แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่อ่านบทความนี้ ขอกล่าวคำว่า ขอบคุณมากๆนะครับคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาไทย แต่สิ่งที่อ่านจากผมโพสด้านบน คงไม่ได้ใจความมากส่วนที่สำคัญ อยู่ด้านล่างนี้ เชิญอ่านครับ
          



Monday, July 30, 2012

สถิติและวิจัยการศึกษา



ช่วงสองสามวันนี้คงต้องลุยวิชาวิทยาการวิจัยกันหนักหน่วงหน่อยเนื่องจากว่าเทอมนี้ผมต้องเรียนเกี่ยวกับวิจัย 2 วิชา


ฝากให้เพื่อนๆร่วมชั้นเรียนที่ ม.ราชภัฎเทพสตรีด้วยนะครับ  ขอให้สนุกกับการเีรียน วิทยาการวิจัย   




MED D601 สถิติและวิจัยการศึกษา หน่วยที่ 1


http://www.youtube.com/watch?v=WfNPH3rKgIE&feature=relmfu



MED D601 สถิติและวิจัยการศึกษา หน่วยที่ 2






MED D601 สถิติและวิจัยการศึกษา หน่วยที่ 3


http://www.youtube.com/watch?v=pTyVtMZEt2Y&feature=relmfu




MED D601 สถิติและวิจัยการศึกษา หน่วยที่ 4





MED D601 สถิติและวิจัยการศึกษา หน่วยที่ 5



MED D601 รายการสอนสรุป หน่วยที่ 1-5

พฤติกรรมของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทย

เมื่อวานนี้เปิดข่าวจากในเว็บเจอสถิติเด็ด กรุงเทพเป็นเมืองที่มียอดผู้ใช้ facebook มากที่สุด แต่ยังไงก็แอบภูมิใจนะครับ  เพราะประเทศไทยเป็นข่าวอีกแล้ว ยังเป็นข่าวที่ดี อย่างน้อยก็มองมุมบวกในด้านเทคโนโลยีครับ  วันนี้ว่าง 1 ชั่วโมงก่อนไปช่วยกันทำรถขวนแห่งเีทียนพรรษาของโรงเรียน   ก่อนไปก็อปปี้งานวิจัยมาฝากครับ  มาดูรายละเอียดกันนะครับ  ว่าคนไทยมีพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์อย่างไร เป็นบทความที่น่าใจสามารถนำไปใช้ในงานวิจัยได้ครับ



พฤติกรรมของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทย


บริษัท มิลวาร์ด บราวน์ ไฟร์ฟลาย จำกัด (Millward Brown Firefly) ผู้ให้บริการวิจัยการตลาดเปิดเผยผลการวิจัยจากการศึกษาเชิงคุณภาพ (qualitative study) ซึ่งมีขึ้นทั่วโลกเป็นครั้งแรกว่าผู้บริโภคมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อ แบรนด์ต่าง ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างไร
ประเทศ ไทยเป็นหนึ่งใน 15 ประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาซึ่งมีการศึกษาในหัวข้อดังกล่าว ในขณะที่ทัศนคติและพฤติกรรมต่าง ๆของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์มีความเป็นสากลทั่วโลก รายงานของ ไฟร์ฟลายพบคุณลักษณะอันโดดเด่นซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างของผู้ใช้สื่อ สังคมออนไลน์ในประเทศไทยจากผู้ใช้ฯ ในประเทศอื่น
รายงาน ภายใต้หัวข้อ “ภาษาแห่งความรักในสื่อสังคมออนไลน์ (The Language of Love in Social Media)” พบว่าผู้บริโภคชาวไทยใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างความรู้สึกของการเป็นอัน หนึ่งอันเดียวกัน สำหรับคนไทย สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการแสดงตัวตนภายในกลุ่ม และพวกเขาใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการในการได้รับ การยอมรับและการเห็นด้วย สิ่งนี้มีความแตกต่างกับประเทศอื่นซึ่งสื่อสังคมออนไลน์ถูกนำมาใช้ในการโป รโมทตนเองหรือเพื่อแสดงบุคลิกลักษณะเฉพาะ
ผลการวิจัยที่สำคัญ
ทั่ว ทั้ง 15 ประเทศ การวิจัยของไฟร์ฟลายแสดงให้เห็นว่ามีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในแต่ละประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นธรรมชาติที่คล้ายคลึงกันอย่างแท้จริงของสื่อสังคมออนไลน์
หนึ่ง ในผลการวิจัยที่สำคัญคือผู้บริโภคทุกที่ทั่วโลกไม่ต้องการให้บริษัททำตัว เหมือนบริษัท พวกเขาต้องการให้บริษัทเป็นเหมือนกับเพื่อนของพวกเขา การทำเช่นนี้ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในสื่อสังคมออนไลน์

Sunday, July 29, 2012

สถิติเกี่ยวกับ Education 2.0 ในสหรัฐอเมริกา


 สถิติเกี่ยวกับ Education 2.0 ในสหรัฐอเมริกา


Education 2.0 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเครือข่ายทางสังคม (Social Networking) มาใช้ในทางการศึกษา เป็นสถิติของนักเรียนในท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในกลุ่มของสภากรรมการโรงเรียนแห่งชาติ หรือ NSBA (National School Boards Association) โดยสำรวจนักเรียนที่มีอายุ 9-17 ปี จำนวน 1,277 คน, พ่อแม่ผู้ปกครอง จำนวน 1,039 คน และผู้นำของโรงเรียนในทุกเขตทั่วสหรัฐอเมริกา จำนวน 250 คน
ที่มาข้อมูล http://www.columnfivemedia.com/socialcast-infographic-education-2-0/ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2553
• ประเด็นการใช้งานของนักเรียน
- นักเรียน 96% แสดงตนในอินเทอร์เน็ต โดยใช้เทคโนโลยีเครือข่ายทางสังคม เช่น การแชต (Chating), การส่งข้อความ (Texting), เขียนบลอก (Bloging), และเข้าเยี่ยมชมตามชุมชนออนไลน์ต่างๆ
- นักเรียน 30% มีบลอกเป็นของตนเอง และมากกว่า 1 ใน 6 บอกว่าได้เพิ่มข้อมูลในบลอกที่เขาสร้างขึ้นอย่างน้อยทุกสัปดาห์
- นักเรียน 59% ของผู้ที่ใช้เครือข่ายทางสังคม มีการสนทนาในหัวข้อทางการศึกษาต่างๆ แบบออนไลน์ และมากกว่า 50% ได้สนทนาเกี่ยวกับงานที่ครู/โรงเรียนได้มอบหมายให้ทำ
- เครื่องมือเครือข่ายทางสังคมที่นิยมใช้กันในโรงเรียน คือ Skype, YouTube, WordPress, Twitter, Facebook, Blogs
• ประเด็นการส่งเสริมให้ใช้เครือข่ายทางสังคมในห้องเรียน ของโรงเรียนในท้องถิ่น
- โรงเรียน 69% มีโปรแกรมเรียนทางเว็บไซต์
- โรงเรียน 46% มีนักเรียนที่เข้าร่วมโปรแกรมการเรียนในทางออนไลน์ หรือโปรแกรมนานาชาติอื่นๆ
- โรงเรียน 35% มีนักเรียน และ/หรือ ผู้สอน เขียนบลอก
- โรงเรียน 22% มีส่วนร่วมในการสร้าง หรือดูแลเว็บสารานุกรม (Wiki)
- โรงเรียน 27% มีครู/ผู้อำนวยการเข้าร่วมชุมชนออนไลน์
- โรงเรียน 59% มีบุคลากรอย่างน้อยที่สุดครึ่งหนึ่ง มีส่วนร่วมในเครือข่ายทางสังคมที่มีวัตถุประสงค์ในทางการศึกษา
- 49% ของโรงเรียนในกลุ่ม NSBA กล่าวว่า โรงเรียนของเขาได้เข้าร่วมโครงการทางออนไลน์ร่วมกันกับโรงเรียนอื่น
ที่มาข้อมูล http://www.columnfivemedia.com/socialcast-infographic-education-2-0
ผู้แปล Wannakorn K. Borpit
เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2553
 http://smeducation.wordpress.com/2011/01/18/%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA/

ไอโมบาย i-Note Wifi CPU 1.2GHz, RAM 1G, หน่วยความจำภายใน 4GB, Android 4.0.3,HDMI

หลังจากบทความของวันก่อน การใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับบริบทการศึกษาของโรงเรียนปัจจุบันที่ผมสอน  ซึ่งเคยใช้   เม้าส์ปากกา Genius F509   วันนี้เดินไปที่เซนทรัลพิษณุโลก  เจอออฟชั่นนี้ในราคา 4,500 บาทมิอาจอดใจไหว ก็เลยหยิบมา 1 เครื่อง  ลองดูรายละเอียดครับ สุดคุ้มจริงๆเมื่อเทียบกับ Sumsung galaxy tab 


 
ไอโมบาย i-Note Wifi (CPU 1.2GHz, RAM 1G, หน่วยความจำภายใน 4GB, Android 4.0.3,HDMI, USB2.0, กล้องหน้า-หลัง) 



 
 
ฟรี :
Micro SD 8GB
ราคาปกติ :
5,000 บาท
ราคาขาย :
4,590 บาท
 ประหยัด 410 บาท (Discount 8%)
จัดส่งภายใน 2-5 วันทำการ หลังจากการชำระเงินเรียบร้อย
จัดจำหน่ายและจัดส่งโดยร้าน
 

รายละเอียดสินค้า
“i-note Wifi” สมาร์ทแท็บเล็ตสุดล้ำในราคาคุ้มค่า ดีไซด์สวยเก๋ บางเบา จัดเต็มครบทุกการเชื่อมต่อ CPU Cortex ความเร็ว 1.2GHz แรมอีก 1GB หน่วยความจำภายในอีก 4GB หน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัช ขนาด 7 นิ้ว สีสวยคมชัด กล้องหน้าหลัง กล้องหน้า 3แสน กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส 

i-note Wifi มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 มีมาครบทุกพอร์ตทั้ง USB2.0 พอร์ตใหญ่เสียบเมาส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดร์ฟ แอร์การ์ดได้ทันที มีพอร์ต HDMI สำหรับต่อกับ LCD TV 

ดีไซด์สวย บางเฉียบ จอ 7 นิ้ว ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ตอบโจทย์ทุกด้านในราคาเบาๆ เพียง 4,590 บาท รับประกัน 1 ปีเต็มจาก ไอโมบาย 

รายละเอียดสินค้า

-ขนาดของตัวเครื่อง 192 mm x 130 mm x 11.5mm 
-น้ำหนัก 296 กรัม 
-รองรับการใช้งานแบบหลายภาษา 
-ดีไซน์ Touch screen 
-รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ Micro SD (สูงสุด 16 GB) 
-ระบบปฏิบัติการตัวเครื่อง Andriod 4.0.3 
-ซีพียู (หน่วยประมวลผลกลาง) Cortex A8 1.2 GHz 
-ROM/RAM: 4 GB / 1 GB 
-กราฟิคการ์ด MALI 400 MHz 
-Motion Sensor 
-หน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive 
-หน้าจอระบบสัมผัสแบบมัลติทัช 
-ความละเอียด 800X444 พิกเซล 
-หน้าจอสี 16.7M TFT 
-หน้าจอขนาด 7 นิ้ว 
-แบตเตอรี่LI-Polymer 3000 mAh 
-กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล 
-กล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล 
-ออโต้โฟกัส 
-ซูม 
-พาโนรามา 
-ปรับรูรับแสง 
-เล่นวีดีโอ MP4/ 3GP/AVI/MPG/MKV/MOV/VOB/WMV 
-บันทึกวีดีโอ MP4

Saturday, July 28, 2012

กระบวนการจัดการความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับ การจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media

บ่ายวันนี้ผมเข้าเว็บ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/274653  ของ รองศาสตราจารย์ รังสรรค์ เนียมสนิท รองศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดการความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับ การจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media  ก็เลยเก็บมาฝากตามนี้นะครับ


"
กระบวนการในการจัดการความรู้
          จากรูปแบบในการจัดการความรู้ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ยังมีบางส่วนที่ขาดหายไป นั่นคือวิธีการที่เราจะใช้จัดการกับความรู้ หรือที่เรียกว่า กระบวนการในการจัดการความรู้ (KM Process) นั่นเอง
          กระบวนการในการจัดการความรู้ คือ กระบวนการ หรือวิธีการที่ใช้จัดการกับความรู้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร ซึ่งจะประกอบด้วย 5 กระบวนการด้วยกันคือ
1.   การกำหนดองค์ความรู้ (Define) คือ การกำหนดองค์ความรู้ที่จำเป็น หรือมีความสำคัญกับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นความรู้สำหรับการปฏิบัติงานในแต่ละหน้าที่ ความรู้ที่ใช้เพื่อตอบสนองต่อกลยุทธ์ ความรู้หลักขององค์กร(Core Competency) ความรู้ที่ใช้ในการสร้างความแตกต่าง รวมถึงการสำรวจ และค้นหาว่าองค์ความรู้ที่จำเป็นและต้องการนั้นมีอยู่หรือไม่ในองค์กร ถ้ามี อยู่ที่ใคร และความรู้ที่จำเป็นตัวใดที่เรายังขาด ซึ่งอาจดำเนินการโดย การทำแผนที่ความรู้, การวัดสมรรถนะและการปฏิบัติงาน, การกำหนดทุนทางปัญญา ,การกำหนดสมรรถนะหลัก, การกำหนดสมรรถนะของคนในแต่ละตำแหน่งงาน และการกำหนดหน้าที่ในแต่ละตำแหน่งงานเป็นต้น
2.   การสร้างองค์ความรู้ (Create) คือ การจัดหา หรือสร้างความรู้มาเติมเต็มส่วนที่องค์กรยังขาดหายไป โดยอาจสร้างหรือต่อยอดจากความรู้ที่มีอยู่เดิม เรียนรู้จากประสบการณ์ หรือการจัดหาความรู้จากแหล่งภายนอก ซึ่งอาจทำได้โดย การจ้างที่ปรึกษา, การเรียนและการฝึกอบรม, การทำวิจัย, การค้นหาแนวปฏิบัติที่ดี และการเทียบเคียงเป็นต้น
          3. การเสาะแสวงหาและจัดเก็บองค์ความรู้ (Capture) คือ การจัดเก็บความรู้ที่มีทั้ง ความรู้ฝังลึก และความรู้ชัดแจ้ง ให้อยู่ในรูปของฐานความรู้ (ทุนองค์กร) ที่มีการจัดระเบียบ โครงสร้าง ให้ง่ายต่อการสืบค้น ค้นคืน แบ่งปัน และยกระดับ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร และสารสนเทศเข้ามาช่วยในการจัดการ เช่น ฐานข้อมูลแนวทางปฏิบัติที่ดี, สมุดหน้าเหลืองผู้เชี่ยวชาญ, ฐานความรู้ และคู่มือการปฏิบัติงานเป็นต้น


ภาพกระบวนการในการจัดการเรียนรู้
4. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share) คือ การกระจาย แบ่งปัน แลกเปลี่ยน ความรู้ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยช่องทาง และรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การจัดบอร์ดประชาสัมพันธ์, จดหมายข่าว, กระดานข่าว ยังรวมถึงการจัดสถานที่ ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เช่น การจัดงาน Expo วิชาการ, เวทีสัมมนา, การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และ Show & Share เป็นต้น
           5. การใช้ความรู้ (Use) คือ การนำความรู้มาใช้ประโยชน์ หรือนำไปสู่การปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนางาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างนวัตกรรม การพัฒนาความรู้ความสามารถของคน และการตัดสินใจ
 ทั้งนี้ทั้งนั้นกระบวนการในการจัดการความรู้จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของโครงการจัดการความรู้ที่องค์กรได้ตั้งขึ้น ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็นต้องดำเนินการจนครบทั้ง 5 กระบวนการ เช่น เป้าหมายของการจัดการความรู้ เพื่อต้องการจัดเก็บองค์ความรู้ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ดังนั้นกระบวนการในการจัดการความรู้อาจดำเนินการเพียง Capture, Share และ Use เป็นต้น
"

การจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media

สวัสดีครับวันนี้เช้าๆก่อนที่จะเดินทางไปพิษณุโลก  นั่ง Search การจัดการความรู้ในโรงเรียน เพื่อนำมารวบรวมไว้สำหรับทำสารนิพนธ์  เรื่อง "การจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media"  ซึ่งการค้นคว้าในเช้าวันนี้ก็ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย วันนี้ขอนำมาแชร์นะครับ  เผื่อมีประโยชน์กับงานวิชาการของเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านบล็อกของผม 


นฤมล พฤกษศิลป์ และพัชรา หาญเจริญกิจ (2543: 66) อธิบายว่ากระบวนการหรือขั้นตอนการพัฒนา Knowledge Management ประกอบด้วย
1. การจัดหาหรือการสร้างความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition)
2. การจัดเก็บความรู้ (Knowledge Organization Storage)
3. การเผยแพร่ความรู้ (Knowledge Distribution)
4. การใช้โปรแกรมการจัดการความรู้ (Knowledge Application)

จากที่ได้ศึกษาก็นำมาออกแบบ ให้เหมาะกับการเรียนการสอนของสถานศึกษา Social Media ที่ต้องการนำมาประยุกต์ใช้ครับ

1. การจัดหาหรือการสร้างความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) >> Google ,Youtube,Search Engin
2. การจัดเก็บความรู้ (Knowledge Organization Storage)  >>  จัดเก็บความรู้ทั้ง online และ offline  เช่น  จัดเก็บแบบ Online ใน Blogger ,Wordpress,Google Docs,Slideshare ,Youtube แบบ Offline เช่น  Word,Powerpoint,Pdf ,คลิปวีดีโอ
3. การเผยแพร่ความรู้ (Knowledge Distribution)  การเผยแพร่ความรู้ โดย การเผยแพร่ความรู้ ผ่าน Search Engine เช่น Google,Yahoo,Bing   ผ่าน Youtube โดยใช้คลิปวีดีโอ  ผ่านทาง Slideshare  ผ่านทาง Social Network เช่น Facebook ,Twitter ,Hi5  ผ่านทางเว็บบล็อก เช่น Blogger ,wordpress
4. การใช้โปรแกรมการจัดการความรู้ (Knowledge Application)  >>>>>  จริงๆแล้วตัวนี้ผมจะเสนอแบบใหม่ให้เหมาะกับ การจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media โดยให้มีการค้นคืนและสืบค้นได้  ตัวนี้ผมอ้างอิงมาจากงานวิจัยของนักวิจัยท่านอื่นอีกที   งานวิจัยชิ้นนี้ สามารถอ้างอิงเรื่องการจัดการความรู้ในสถานศึกษาโดยใช้ Social Media ของผมได้เป็นอย่างดีครับ

วันภาษาไทย ๒๕๕๕

วันภาษาไทย ๒๕๕๕


          รู้กันหรือไม่ว่าภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ก็มีวันที่ระลึกถึงภาษาไทยของเราด้วยเหมือนกัน โดยในวันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี ประเทศไทยได้กำหนดให้เป็น "วันภาษาไทยแห่งชาติ"

ความเป็นมาของวันภาษาไทยแห่งชาติ

          สืบเนื่องจากคณะกรรมการรณรงค์เพื่อภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย และมีความห่วงใยในปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อภาษาไทย รวมถึงเพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งชาติได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือกันทำนุบำรุง ส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทยให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป จึงได้เสนอขอให้รัฐบาลประกาศให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี เป็น วันภาษาไทยแห่งชาติ เช่นเดียวกับวันสำคัญอื่นๆ ที่รัฐบาลได้จัดให้มีมาก่อนแล้ว เช่น วันวิทยาศาสตร์,วันสื่อสารแห่งชาติ เป็นต้น และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 เห็นชอบให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ 

ชวนเข้าร่วม แข่งขันการประกวด"แผนการประหยัดพลังงานในโรงเรียนของฉัน"

ชวนเข้าร่วม แข่งขันการประกวด"แผนการประหยัดพลังงานในโรงเรียนของฉัน"  

                 ในช่วงวันที่ 18-19 เดือนสิงหาคมนี้ ก็่จะมีการจัดวันวิทยาศาสตร์เป็นประจำทุกทีครับ เดือนนี้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์รับงานแบบเต็มๆแต่นอนครับ ประชุมกันไปแล้วหนึ่งรอบ ผมเตรียมงานสำหรับกิจกรรมการแข่งขัน ประมาณ 5 รายการ  ซึ่งเป็นกิจกรรมการแข่งขันที่จัดขึ้น โดย สพน.ร่วมกับ สพฐ     บ.บางจาก ร่วมกับ สพฐ  บางรายการจัดโดย มหาวิทยาลัยนเรศวร  รวมกับ สพฐ  และ สพน.  ซึ่งกิจกรรมที่อยู่ในมือผมตอนนี้ เป็นแนวๆพลังงานทั้งหมด แบบว่าโปรเจคแนวนี้รับเต็มครับ จัดเต็มเช่นกัน  วันพุธที่ผ่านมาผมเตรียมแผนงานการอนุรักพลังงานอยู่เกือบครึ่งวัน  นึ่งคิดจนมึนเหมือนกันครับ  แต่ ok มากได้รูปแบบที่คิดว่าลงตัว วันจันทร์ คงส่งให้ผู้ใหญ่คอมเม้น และแจกเป็นซีทให้นักเรียนลงมือสร้างแผนประหยัดพลังงานได้แต่นอน  ซึ่งกิจกรรม ประกวด"แผนการประหยัดพลังงานในโรงเรียนของฉัน"  นี้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์  และ วิชาฟิสิกส์ ซึ่งต้องใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อแก้ไขปัญหา  ต้องคำนวณเรื่องพลังงานและจุดคุ้มทุน ซึ่งก็เชื่อมโยงไปถึงเรื่องของเศรษฐศาสตร์ การบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็เป็นการใช้ความรู้ด้านการบริหารจัดการ  และที่สำคัญคือได้ใส่คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และจิตอาสาลงในกิจกรรม ซึ่งส่วนนี้สำคัญมาก  แต่ในมุมของผู้สอนที่เรียนบริหารการศึกษา ในด้านวิชาการผมมองว่านี่คือการเรียนอีกรูปแบบ คล้ายๆ กับ PBL (Project Base Learning)  ซึ่งน่าจะมีความสำคัญมากในการปฎิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 21   หากมองในเรื่องการระดมทรัพยากรทางการศึกษางานนี้ ถ้าส่งผลงานเข้าแข่งในระดับประเทศ เราสามารถสร้างทุนในการจัดการเรียนการสอนของเราได้โดยอาศัยโครงการเหล่านี้ เพราะ  มีรางวัลให้กับนักเรียนและสถานศึกษาที่ส่งเข้าประกวด  ทุกอย่างนะจะลงตัวไช่หรือเปล่าครับกับการจัดการศึกษาในลักษณะนี้

อบรม krutubechannel.com "ครูไทยยุคไอที สร้างคลิปดีให้เด็กดู" ปี 2 รุ่น 1

อบรม   krutubechannel.com "ครูไทยยุคไอที สร้างคลิปดีให้เด็กดู"   ปี 2 รุ่น 1


จัดอบรมกับเสร็จไปตั้งแต่วันที่ 11-15 กรกฎาคม 55 แต่พึ่งเอาเมมโมรี่กล้องกลับมา  ตามจริงภาพไม่ค่อยเยอะ แต่ความรู้และมิตรภาพที่ได้จากที่นี่นั้นมากมายมากๆ    

            สิ่งที่ได้จากการอบรมครั้งนี้ ที่โฟกัสได้ชัดเจนและนำมาใช้ได้ทันที คือ ตัวอย่างการใช้ Social Media เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยมีวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถมาให้ความรู้  ขอบคุณโครงการนี้มากๆครับ  การเรียนการสอนในยุคที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเน้นให้ผู้เรียนสามารถค้นหาความรู้และตัวครูเองก็สร้างความรู้ให้นักเรียนมีแหล่งค้นคว้า โครงการนี้รองรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงหลายๆเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และทำให้ผมรู้สึกมั่นใจกับการสอนโดยใช้สื่อ Social Media มากขึ้น ตอนแรกที่เข้ามาบรรจุ ยังกลัวว่าตัวเองจะบ้าหอบฟางอยู่คนเดียว  แต่พอไปอบรมที่นี่เปลี่ยนความคิดเรียบร้อยครับ และเดินหน้าได้ต่อไป  และหลังจากที่ได้อบรมก็เจอเพื่อนๆที่อบรมด้วยกัน ต่างคนก็ต่างมีช่องทางในการติดต่อกับผู้เรียนของตัวเอง ทั้ง  Social Media และSocial Network แบบใช้กันสุดๆจริงๆ จึงทำให้ผมสร้าง blog ด้วย blogger แห่งนี้ แต่ โดยส่งนมากเพื่อนที่รู้จักกันใช้ wordpress เป็นส่วนใหญ่  แต่ผมมีความจำเป็นต้องสอนเด็กทำ Google Adsense และ Affiliate Amazon  ซึ่งจากความต้องการในการจัดการเรียนการสอนนี้ blogger น่าจะเหมาะมากกว่าครับ แต่เอาเป็นว่า ผมได้เริ่มสร้างช่องทางการจัดการเรียนการสอน โดยใช้ Social Media และSocial Network  แล้ววันนี้ ณ ที่นี่ ครับ

การใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับบริบทการศึกษาของโรงเรียนปัจจุบันที่ผมสอน

หลังจากที่ผมไปศึกษา  ดูงานที่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี   วันนั้นผมได้รับความรู้เทคนิคการสอนจาก ครูสมนึก มีน้อย     http://www.facebook.com/somnaume    เทคนิคการสอนในรูปแบบนี้ผมกำลังต้องการพอดี และเป็นประโยชน์มากกับงานสอนของผม  จริงๆแล้วผมสอบบรรจุในเอกฟิสิกส์  แต่ปัจจุบันโดยส่วนมากสอนคอมพิวเตอร์ และอนาคตอาจต้องไปสอน คณิตศาสตร์ เคมี ชีวะ หรือการงานพื้นฐานอาชีพ เนื่องจากครูโรงเรียนเราย้ายบ่อย  จึงทำให้การจัดเก็บความรู้และการบันทึกการสอนในรูปแบบคลิปวีดีโอเพื่อให้สามารถนำกลับมาสอนใหม่ได้นั้นจำเป็นอย่างมากสำหรับผม โดยส่วนตัวผมพอมีอยู่บ้างแต่ติดตรงที่ด้วยบริบทที่เปลี่ยนไป คือ เปลี่ยนจากทำงานเอกชนมาบรรจุตำแหน่งครูผู้ช่วยช่วงปลายเดือนธันวาคม 54 จึงทำให้ผมยังไม่ชำนาญในการใช้สื่อและเทคนิคต่างๆที่มีให้เหมาะสมกับบริบททางการศึกษา หรืออาจจะยังไม่เต็มที่หรือไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะได้ แต่วันนี้เจอตัวอย่างที่ดี สามารถนำมาประยุคใช้ให้เหมาะกับงานสอนของผม ซึ่งทรัพยากรที่เรามีก็แตกต่างกัน ครูสมนึกใช้กระดานอิเล็กทรอนิกส์ และ ip board (จริงๆแล้วที่ รร มีหนึ่งเครื่อง)  ส่วนผมใช้ Notebook และ เม้าส์ปากกา Genius F509  
 เม้าส์ปากกา Genius F509  


 (แต่จริงๆแล้วยังแอบคิดอยู่คนเดียวว่าเปลี่ยนเป็น  SAMSUNG Galaxy Tab 7.7  ซะเลยดีมั้ย ผ่อน อิออน เดือนละพันกว่าบาท จัดเลยดีมั้ย remote เข้าเครื่องคอมสอนได้ทันที สะดวกกว่ากันเยอะ )  แต่จริงๆแล้ว ผมไม่รอให้ครบร้อยแล้วค่อยทำหรอกครับ ถ้ามีสิบ ก็ทำแค่ที่มีให้เต็มร้อย ใช้ที่มีให้คุ้มค่าที่สุด  สำหรับการใช้งานก็ใกล้เคียงกันนะครับ กับ กระดานอิเล็กทรอนิกส์  ip board ที่มาพร้อมกับซอฟแวร์  ผมกลับมาที่โรงเรียนก็เลยจัดอุปกรณ์เข้าเซตใหม่  ได้แก่   คอมพิวเตอร์ Notebook 1 เครื่อง  + เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 1 เครื่อง (สามารถคลื่นย้ายได้) + เม้าส์ปากกา Genius F509   + โปรแกรม Camtasia Studio 6 + ไมโครโฟน และเครื่องเสียง   พร้อมห้องฟิสิกส์ที่ว่างเปล่า  เสร็จครบเซตก็พอทำงานได้ครับ สามารถบันทึกการสอนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมฉายออกเครื่องโปรเจคเตอร์ได้  สอนเสร็จก็ Replay แล้วเราก็มีเวลาให้กับการตอบข้อซักถามให้นักเรียน      ใครฟังไม่ทันก็ Replay ฟังใหม่ ส่วนใครกลัวลืมหรือแฟนพันธ์แท้ก็ก็อปปี้ให้กลับไปดูที่บ้านได้เลย  ส่วนคลิปที่ทำการ Record ในช่วงเวลาการสอนเสร็จแล้วผมก็นำ upload ขึ้น youtube ครับ ที่นี่ครับ www.youtube.com/user/kruweerachat   อีกส่วนหนึ่งก็นำมาลงเว็บบล็อก   http://kruweerachat.blogspot.com/p/e-learning.html     ถึงจะมือใหม่ทางด้านการสอนอาจยังไม่เหมาะสมกับบริบททางการศึกษาแบบเต็มร้อย  อย่างน้อยผมก็เต็มร้อยเท่าที่ผมมี  วันนี้ผมเริ่มทำการ Record การสอนของผมโดยใช้ โปรแกรม Camtasia Studio 6  ตัดต่อเล็กน้อยแล้ว uplaod ขึ้น youtube ส่งต่อให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ในโลกออนไลน์  อีกทางหนึ่งก็เป็นการร่วมกิจกรรมที่เคยไปอบรม krutubechannel ปี 2 เมื่อวันที่ 11-15 กรกฎาคม 55 ที่ผ่านมานี้ครับ การอบรม krutubechannel ก็เช่นกัน ทำให้ผมมอง Social Media สำหรับการสอนได้ลึกกว่าเดิม  แต่วันนี้พึ่งเริ่ม ฝึกบิน  ใครว่าง ใครสนใจ ก็ไปพร้อมๆกันนะครับ 

Friday, July 27, 2012

ดูงานที่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี

ดูงานที่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี
               หลังจากกลับจากกาญจนบุรี เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางพอสมควร ต้องกลับมาเคลียร์งานมากมาย ตรวจข้อสอบและงานกิจกรรมอื่นๆ หนึ่งวันหมดไปอย่างรวดเร็ว วันหนึ่งๆก็ผ่านมาและก็ผ่านไปจนมาถึงวันนี้พึ่งได้อับบล็อก  การไปดูงานที่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี ผมได้เห็นอะไรหลายๆอย่างทั้งทางด้านการใช้เทคโนโลยี และการจัดการระบบสารสนเทศ  Software Hardware และ Peopleware ต้องขอบคุณ ผศ.ดร.วินัย และคณาจารย์ทุกท่านครับที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ 
               สิ่งที่ผมคุ้นเคยกับระบบ สิ่งหนึ่งคือ ระบบ Server Center ซึ่งตอนทำงานเอกชนปลุกปล้ำกับระบบ Lunux มากพอสมควร และส่วนหนึ่งคือ Rfid ซึ่ง มีทั้งภาครับและภาคส่ง  





Tuesday, July 24, 2012

ทดสอบติดตั้ง VirtualBox ใน windows 7 64 บิต

ติดตั้ง VirtualBox VirtualBox คืออะไร ????? สำหรับผมใช้เพื่อจำลองเครื่องคอมอีกเครื่องไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา โดยส่วนมากเอาไว้ทดสอบ Linux แต่วันนี้จำเป็นต้องติดตั้งเพื่อจำลอง dmc กรอกข้อมูลนักเรียน วันนี้ผม record คลิปเปล่าๆในส่วนของขั้นตอนการติดตั้งมาฝากนะครับ เดี๋ยวจะทยอยอับเรื่อยๆตามสมควรหรือ เข้าไปอ่านเพิ่มติดมได้ที่ http://kruweerachat.blogspot.com/ ครั้งหน้าพบกันกับการติดตัั้ง os นะครับ

WBI (Web-based Instruction) ก่อนจะทิ้งคอมพิวเตอร์เพื่อไปทำภาระกิจ อื่น

วันนี้คาบว่างๆที่ไม่มีสอนนั่งท่องเน็ตเข้าเว็บ เจอเฟสบุค ผอ.เอนก http://anekrati.wordpress.com/    
หลังจากที่คลิกเข้าไปอ่านก็ไม่ผิดหวังได้อะไรดีๆมาเยอะแยะ ลิ้งค์ดีๆก็มีเพียบ พึ่งรู้ว่า วงการการศึกษาได้นำเอา Social Media เข้ามาใช้ร่วมกับการเรียนการสอนแล้ว บริบทการทำงานที่เปลี่ยนจากงานเอกชนที่ใช้ Social Media และ Social Network เพื่อธุระกิจ สร้างแบรนด์หรือเพื่อขายสินค้า เปลี่ยนมาเป็นเพื่อการศึกษา ผมคงต้องหาความรู้เพิ่มอีกมากมาย เพื่อให้เหมาะสมและให้นำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  
            วันนี้ผมอ่านเว็บบล็อกของ  ผอ.เอนก http://anekrati.wordpress.com/    
ไปหลายสิบบทความ แต่สดุดศัพท์อยู่ หนึ่งคำ นั่นคือ WBI ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จัก  เคยทำแต่ SEM,SEO,Social Network Marketing เจอคำนี้เข้ากลายเป็นของใหม่ไปเลย แต่เพื่อนที่จบด้าน เทคโน และทางคอม  บอกว่า เขามีมานานแล้ว  ผมก็เลยเซ่ออยุ่คนเดียว (เนื่องจากบริบทงานของเราต่างกันผมพึ่งมาเป็นครูไม่ได้ไม่กี่เดือน) แต่น้อมรับแลพร้อมที่จะศึกษาเพิ่มครับ   ใครยังไม่รู้จัก  WBI  มาเริ่มศึกษาพร้อมๆกับผมได้เลยนะครับ ดังด้านล่างนี้ (ก็อปปี้มาอีกทีครับ เครดิต http://student.nu.ac.th/fon/wbi.htm)
 


WBI
                ในปัจจุบันเทคโนโลยีนับว่ามีบทบาทต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก อินเทอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่าย NETWORK ที่เชื่อมโยงเครือข่ายมากมายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน มนุษย์พยายามที่จะใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด จึงได้ทำการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยน และใช้งานข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกันได้ โดยผ่านทางสายส่งสัญญาณในระบบ จึงเกิดเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลาย ๆ จุด จนในปัจจุบันกลายเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมองค์กรทั่วโลกที่รู้จักันในนาม อินเทอร์เน็ต (Internet)
                เว็บ(Web) หรือ เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW : World Wide Web) เป็นบริการหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นหลังบริการอื่น ๆ  บนอินเทอร์เน็ต นอกจากจะส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาผ่านเครือข่ายการอภิปรายผ่านกระดานข่าว การอ่านข่าว การค้นข้อมูล     และการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
                เว็บ(Web) หมายถึง ข่าวสารข้อมูลในรูปเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ หมายถึง การเชื่อมโยงเอกสารไปยังเอกสารอื่น ๆ ที่อยู่ต่างกัน และไฮเปอร์มีเดีย หมายถึง การรวมไฮเปอร์เท็กซ์และสื่อหลากหลายที่ได้จากการเชื่อมโยงนั้น ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการติดต่อส่งข้อมูลเอกสาร (สรรัชต์  ห่อไพศาล. 2544: 94)

วันนี้ขอแนะนำเว็บบล็อกดีๆเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณครูนะครับ

วันนี้ขอแนะนำเว็บบล็อกดีๆเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณครูนะครับ
         พอดีผมเปิดเว็บไปเจอ เว็บดีๆที่น่านำมาบอกกล่าวเล่าต่อครับhttp://kruarisara.wordpress.com/    
เว็บนี้การันตีด้วยหลายรางวัลเช่น รางวัล ThaiLand Innovative Teachers 2012  



มันคงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรถ้าจะให้ผมอธิบายทั้งเว็บ ขอเก็บผมงานเด็ดของพี่ท่านมาโชว์และแชร์เลยนะครับ ตามบทความด้านล่าง หรือถ้าต้องการอ่านเยอะกว่านี้ ไปที่ http://kruarisara.wordpress.com/    นะครับ

ครูได้นำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ที่ได้จัดทำขึ้นสำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียน
เขียนเป็นวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศจากการจัดกิจกรรมในห้องเรียนซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของนักเรียนทุกคน
นำไปเผยแพร่ให้กับเพื่อนครูในงาน ThaiLand Innovative Teachers 2012 เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
นำมาพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนักเรียน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปค่ะ


กรอบการนำเสนอผลงาน/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practices )
ชื่อผลงาน สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ “Social Media By Kruarisara”
ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวอริศรา สะสม
โรงเรียนศรีสวัสดิวิทยาคารจังหวัดน่าน สังกัด สพม. 37 โทรศัพท์ 054710411
โทรสาร 054710411 โทรศัพท์มือถือ 0843787752
e-mail arisara2512@gmail.com
โครงการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค EDUCATION HUB
Education Hub คือ ศูนย์กลางของการศึกษาในภูมิภาค (Education Hub)
เมื่ออาเซียนรวมตัวกันเป็นประชาคม ซึ่งนั่นก็หมายถึงการมีสิทธิเสรีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างประเทศสมาชิก
เนื่องจากกลุ่มประเทศในอาเซียนมีความหลากในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษา วัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจการเมืองการปกครอง สภาพภูมิประเทศ ระบบการศึกษาประวัติศาสตร์ ความแตกต่างระหว่างกลุ่มคน ที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ต่างกัน อีกทั้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ ดังนั้นการสร้างที่ที่ต่างกัน อีกทั้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ
ดังนั้นการสร้างศูนย์กลางการศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประชากรในอาเซียนสามารถปรับตัวต่อการเข้าร่วม เป็นประชาคมได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นอนาคตสำคัญจึงต้องจัดให้มีมาตรฐานการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่ แบ่งแยกชนชั้น เชื้อชาติ สีผิว และศาสนา
สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการจึงพัฒนาการบริหารจัดการการศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาให้ เป็นที่ยอมรับของนักเรียนจากประเทศเพื่อบ้านและชาวต่างชาติอื่นๆ ให้เข้ามาศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนสังกัด สพฐ.ภายใต้โครงการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค (Education Hub)


Saturday, July 21, 2012

การศึกษางานวิจัย เรื่อง สภาพและปัญหาการจัดการความรู้ ตามทัศนะของผู้บริหารและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง


                  คืนนี้ก่อนเดินทางไปดูงานที่ จ.กาญจนบุรี คงไม่มีอะไรทำมาก ดราฟรายงานมานั่งแชร์ แก้ไขอีกรอบก็คงปริ้นส่ง วันนี้พึ่งสอบเสร็จ  เทอมนี้ผ่านมาแล้ว 3 วิชา  เทอมต่อมานี้เน้นๆวิจัย กลับมาลุยโจทย์เก่าอีกรอบหลังจากที่ไม่ได้ใช้มานาน เกือบสองปีแล้วที่ไม่ได้ทำวิจัยเช็คตัวเองอีกรอบ ลืมเกือบหมด  วันนี้ขอแชร์การค้นคว้าเล็กๆนะครับ  วันหน้าถ้าทำ "การจัดการความรู้ด้วยบล็อกในบริบทของการศึกษา ในส่วนของผู้เรียน ผู้สอน และผู้บริหาร" สำหรับสถานศึกษาเสร็จ จะเอามาแชร์อีกรอบ




การศึกษางานวิจัย
เรื่อง
สภาพและปัญหาการจัดการความรู้ ตามทัศนะของผู้บริหารและครู
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง

เสนอ
ผ.ศ.วินัย สมมิตร


จัดทำโดย
วีรชาติ มาตรหลุบเลา

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาการบริหารทรัพยาการทางการศึกษา
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
ภาคเรียนที่ 3/2554

คำนำ
                การศึกษางานวิจัยเรื่อง สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ ตามทัศนของผู้บริหารและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง การวิจัยนี้มุ่งหมายเพื่อ 1)ศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ ตามทัศนของผู้บริหารและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง จำแนกตาม ตำแหน่ง วุฒิการศึกษา อายุ สถานภาพการสมรส วิทยฐานะ ประสบการณ์ในตำแหน่ง การอบรมเกี่ยวกับการจัดการความรู้ ที่ตั้งของสถานศึกษา ขนาดของสถานศึกษา และผลสัมฤทธิ์การเรียนโดยเฉลี่ย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ได้แก่ ผู้บริหารและครู ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ในปีการศึกษา 2553 จำนวน 314 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ วิธีสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (stratified ramdom sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.891 วิเคราะห์ ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ(percentage) ค่าเฉลี่ย(mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(standard deviation) การทดสอบทีเทส (t-test) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA) และทดสอบรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่(Scheffe ‘s method) 



like