โฆษณา

STEM Education ด้วย Social Media by kruweerachat

Sunday, September 30, 2012

วันนี้นั่งตรวจข้อสอบรวมคะแนน จับคะแนนมาพยากรณ์

วันนี้นั่งตรวจข้อสอบรวมคะแนน จับคะแนนมาพยากรณ์พอตกร๊าฟให้นักเรียนดู เกรดสูงสุดที่จะได้ คะแนนจริงยังไม่ออกนะครับ  คะแนนนี้เป็นของ 4/1 เหลือเวลาอีก พรุ่งนี้ครึ่งวัน นะครับส่งงานครูให้ครบ



13,6,13,7,0,4,6,5,8,17,2,10,21,1,20,15,5,4,18,1,3,8,5,4,6,25,15,3,4,3
  คะแนนเฉลี่ยทั้งห้อง  8.4
ค่ามัฐยฐาน 6
ฐานนิยม 4

จากข้อมูลนี้ น่าจะมี เกรด 4 จำนวน 1 คน    เกรด 3 จำนวน 4 คน   เกรด 2 จำนวน 8 คน    เกรด 1 จำนวน  คน จริงแล้ว จะเกรด 1 และ 0 เยอะกว่านี้นะครับ เพราะนักเรียนไม่ส่งงาน โดยเฉพาะคะแนนการค้นคว้า


ตอนนี้ที่ส่งมามีแค่นี้เอง
http://saichon-subbon.blogspot.com  /นาย สายชล โกจินอก ม.4/1 เลขที่ 1
http://anuwat-subbonwittayakom.blogspot.com /นาย อนุวัฒน์ อัสพันธ์ ชั้น 4/1 เลขที่ 2
http://phornsuda-subbon.blogspot.com    / พรสุดา สุขมา เลขที่9  
http://gacgedapa.blogspot.com/ น.ส. จิดาภา บุญชู ม.4/1 เลขที่12 
http://natthaporn-subbon.blogspot.com / ณัฐพร สายแวว เลขที่13ชั้นม.4/1
http://natthaporn-subbon.blogspot.com/ น.ส.ณัฐพร สายแววชั้นม.4/1เลขที่1
http://ploypairin-subbon.blogspot.com    พลอยไพริน อินทร์จันทร์ ม.4/1 เลขที่ 14
http://choticha-subbon.blogspot.com  / น.ส ชลธิชา ภู่วิเศษ เลขที่17 ม 4/1
http://phitchaya-subbon.blogspot.com/ พิชญา พิมพ์พรมมาชั้นม.4/1 เลขที่18
http://khanittha-subbon.blogspot.com/  ขนิษฐา สาระวัน เลขที่19 ชั้นม.4/1
http://thanakon-subbonwittayakom.blogspot.com  / นายธนากร
http://sasiwimon-subbonwittayakhom.blogspot.com/ 
http://ploypairin-subbon.blogspot.com/  

subbonwittayahom.blogspot.com  น.ส.สิริขวัญ ศรีทองทา ชั้น ม.4/1 เลขที่ 26
subbonwittayakhom.blogspot.com   น.ส.สุพรรณษา คำแว่ว ชั้น ม.4/1 เลขที่ 27
http://sunisa-subbon.blogspot.com/ สุนิสา จอดนอก ชั้นม.4/1

ถ้าเป็นแบบนี้ ติด 0 กัน เป็นสิบแน่นอนครับ คะแนนเก็บไม่ถึง  4/1 ห้องนี้ผมสอนเองตั้งแต่ต้นจนจบ แม่เมื่อเทียบกับ 5/1 ความกระตือรือร้นในการทำงานต่างกันมาก เพราะอาจพึ่งมาจาก ม.3 หรือยังมีวุฒิภาวะยังไม่พอ สังเกตได้จากหลายอย่าง ทั้งปริมาณงานที่ส่ง รายละเอียดของงาน คุณภาพของงาน รวมถึงคะแนนสอบ 

Saturday, September 29, 2012

กรอบการวิจัยและหัวข้อการวิจัย

                

             เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กันยายน ผมเรียนวิชา การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษา  ซึ่งวิชาแรกคือ วิทยาการวิจัย วิชานี้่ต่อจากวิชาก่อน ว่าด้วยการออกแบบการวิจัย  สร้างเครื่องมือ  วิเคราะห์ข้อมูล  แปรผล  สรุปผล  และเขียนรายงานการวิจัย   ซึ่งกรอบการวิจัยและหัวข้อการวิจัย ของผมก็พึ่งผ่านเมื่อวานนี้ ผมได้หัวข้อ "การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 จังหวัดเพชรบูรณ์"  ซึ่งใช้กรอบในแนวคิดการวิจัยของ เซ็งกี้(Senge, 1990, p.126) ซึ่งได้แก่ 1) ความเป็นบุคคลรอบรู้ 2) แบบแผนความคิด 3) วิสัยทัศน์ร่วม    4) การเรียนรู้เป็นทีม  5) การคิดอย่างเป็นระบบ  โดยมีกรอบแนวคิดการวิจัย ดังนี้

 ตัวแปรอิสระ
สถานภาพของครูและผู้บริหาร จำแนกตาม
1)ตำแหน่ง
2)อายุ
3)วุฒิการศึกษา
4)ประสบการณ์ในการทำงาน
5)ขนาดของสถานศึกษา


ตัวแปรตาม
การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 จังหวัดเพชรบูรณ์
 1) ความเป็นบุคคลรอบรู้
 2) แบบแผนความคิด
 3) วิสัยทัศน์ร่วม   
 4) การเรียนรู้เป็นทีม 
 5) การคิดอย่างเป็นระบบ


ที่โรงเรียนของผม มีครู 20 คน  ผู้บริหาร 2 คน กำลังเรียนต่อ ปริญญาโทและจบแล้วอยู่ 9 คน  ซึ่งผมมองดูแล้วเหมาะที่จะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และ ครูอีกหนึ่งคนที่ทำหัวข้อใกล้เคียงกัน คือ ปัญหาการจัดการความรู้ของครูและผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 40 ใช้ กรอบแนวคิดการจัดการความรู้ของมาร์ควอท (Marquardt, 1996,pp. 130-140) ซึ่งได้แก่ 1. การแสวงหาความรู้  2. การสร้างความรู้ 3. การจัดเก็บและการค้นคืนความรู้ 4. การถ่ายทอดความรู้และการใช้ประโยชน์ ซึ่ง หัวข้อนี้กับ หัวข้อที่ผมทำวิจัย ใกล้เคียงกัน มีจุดคาบเกี่ยวบางส่วนที่ต้องใช้ทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน



              การทำวิจัยครั้งนี้เป็นการทำวิจัยเชิงสำรวจ ซึ่งเริ่มแรกเดิมทีนั้น ผมอยากทำการวิจัยเชิงทดลอง ซึ่งตอนเรียน ป ตรี นั้น ผมทำโปรเจค ซึ่งต้องทำการวิจัยเชิงทดลอง แต่ ลองมาทำวิจัยเชิงสำรวจ ก็น่าจะได้ความหลากหลายอีกแบบ ส่วนการวิจัยเชิงทดลอง เรืือง "การจัดการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์โดยใช้ Social Media ตามทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้(Constructivism)" และเรื่อง "การจัดการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์โดยใช้ Social Media ตามทฤษฎีการจักการความรู้ (Knowlage Management)" นั้งคงต้องลงไว้ก่อน นำไปเป็นวิจัยในชั้นเรียนแทน แต่สิ่งที่ได้ คือการค้นคว้าเพิ่มเติมความรู้ และชิ้นงานที่นักเรียนได้ทำ ตลอต 20 สัปดาห์ ที่ผมสอนนักเรียนที่ซับบอนวิทยาคม  และได้เริ่มสอนโดยใช้การบูรณาการสอน  วิชาคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์  และฟิสิกส์ โดยการสอนแบบบูรณาการ

การออกแบบ กรอบแนวคิดการวิจัย

การออกแบบกรอบแนวคิดการวิจัย



Friday, September 28, 2012

เริ่มประมวลผลการสอน วิชาคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ และฟิสิกส์ โดยการสอนแบบบูรณาการ

เริ่มประมวลผลการสอน วิชาคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์  และฟิสิกส์ โดยการสอนแบบบูรณาการ
         จากที่สอนมาได้ 20 สัปดาห์ เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายของการสอบ นักเรียนก็กำลังทะยอยปั่นชิ้นงานเพื่อนำมาส่ง การเรียนการสอนของผม วัดผลจากชิ้นงาน ใบงาน และการค้นคว้า ส่วน ม.4-6 จะเพิ่มการจักการความรู้เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งตอนแรกออกแบบไว้ ตาม กรอบแนวคิดการจัดการความรู้ของมาร์ควอท (Marquardt, 1996, pp. 130-140) และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การจัดการเรียนรู้โดยใช้ Social Media ตามทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)  ซึ่งทดสอบใช้สอนบูรณาการ  วิชาคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์  และฟิสิกส์ เป็นครั้งแรกที่ผมสอน (ผมพึ่งบรรจุตำแหน่งครูผู้ช่วยเมื่อ 30 ธันวาคม 54) งานที่นักเรียนส่งมาก็ยังมีข้อคอมเม้นหลายๆอย่างแต่ด้วยเวลา และทรัพยากรที่จำกัด ก็จึงต้องเน้นการระดมทรัพยากรส่วนอื่นเข้ามาเช่น การใช้ notebook ส่วนตัวของนักเรียน และ กล้องจากโทรศัพท์มือถือ ก็น่าจะสร้างบรรยากาศการเรียนที่ท้าทายและสนุกให้กับนักเรียนได้นะครับ 


ภาพผลงานที่นักเรียนส่งมา ครับ
ภาพที่อยากเห็นคือนักเรียน เรียนอย่างมีความสุข
ด.ญ.ปาริฉัตร ดวงโกสุม ชั้น ม. 3/1



อีกส่วนหนึ่ง ผลงานของนักเรียนชั้น ม.4/1 ที่เริ่มทยอยส่งกันมาเรื่อยๆ ก่อนวันจันทร์นี้ คงปั่นกันหนักก่อนที่ครูจะเช็คคะแนนลง bookmark

การส่งงานในรูปแบบคลิปวีดีโอนี้ จากประสบการณ์ตรงที่ผมสอนเด็กๆ ที่นี่ที่แรก จากการสังเกตด้วยสายตานะครับ นักเรียนใช้เวลาเตรียมตัวกันนานพอสมควร ท่องกันคนละหลายสิบรอบ  กว่าจะได้งานส่ง 1 คลิป น่าจะอ่านและถ่ายทำมากกว่า 10 รอบ  แต่ผมไม่ได้เน้นการตัดต่อนะครับ ให้กดบันทึก แล้วก็ส่งเลย กลัวสร้างภาระงานใหนักเรียนมากเกินไปเพราะสิ่งที่ผมอยากได้ คือ การบูรณาการณ์ความรู้ให้กับนักเรียน และให้นักเรียน เรียนอย่างมีความสุข และสนุกกับการใช้เทคโนโลยี


ตัวอย่างคลิป ของ 4/1 อธิบายเรื่องอัตราเร็วเชิงมุมครับ

 

Thursday, September 27, 2012

หนังสือดี คิดเป็นเห็นทางรวย ฝากแชร์ไว้สำหรับคนชอบอ่านหนังสือแนวๆ สร้างสรรค์การคิด


หนังสือเล่มนี้ผมเคยผ่านเมื่อนานมาแล้ว ประมาณ 3 ปี แต่ความรู้ที่ได้นั้นดีมาก ตามหัวข้อ คิดเป็นเห็นทางรวย  ลองอ่านดูนะครับ







วิกฤติขาดแคลนครู 2 แสนคน

วิกฤติขาดแคลนครู 2 แสนคน

สพฐ.สอบบรรจุพิเศษ1.2พันอัตรา-ให้สิทธิ์เอกบริหาร-ท่องเที่ยว 

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.55 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบการปรับเพิ่มกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเพิ่มเติ่ม ในปีงบประมาณ2556-2559 ซึ่งได้มีการเสนอให้ปรับเพิ่มอัตรากำลังอีก จำนวน 2,940 อัตรา โดยเพิ่มในกรอบอัตราพนักงานราชการกลุ่มงานบริหารทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน จากกรอบอัตรากำลังที่กำหนดไว้เดิม 20,183 อัตรา ทำให้มีกรอบอัตรากำลังกลุ่มดังกล่าว รวม 23,123 อัตรา จำแนกเป็นอัตรากำลังที่ทดแทนลูกจ้างประจำที่มีลักษณะที่ไม่ใช่งานจ้าง เหมาบริการ 425 อัตรา และทดแทนลูกจ้างชั่วคราว 22,698 อัตรา 

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่จะมีข้าราชการครูในสถานศึกษาสังกัด สพฐ.เกษียณอายุราชการปกติ และเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือระหว่างปี 2555-2565 เป็นจำนวนมากนั้น เป็นเรื่องของนโยบายว่าจะมีแนวทางการดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด สพฐ.ได้ประเมินพบว่าจะมีข้าราชการครูในสังกัดหาย ไปประมาณ 200,000 แสนกว่าคน จากจำนวนทั้งหมดในปัจจุบัน ประมาณ 4.3 แสนกว่าคน 

"เรื่องนี้ถือเป็นวิกฤตการณ์ในอนาคต ที่จะต้องมีนโยบายว่าจะบริหารจัดการอย่างไร และคิดว่าคงไม่สามารถใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบปกติอย่างที่เคยทำ โดยใช้วิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุข้าราชการครูเข้ามาทดแทน ต้องใช้ระยะเวลานาน กว่าที่ข้าราชการครูจะสั่งสมประสบการณ์จนกระทั่งมีคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน" นายชินภัทร กล่าว 

ด้านนายไกร เกษทัน ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.กำลังขอข้อมูลจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ว่าต้องการอัตรากำลังในสาขาวิชาเอกใด เพื่อพิจารณากำหนดการสอบคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ในกรณีพิเศษและเหตุจำเป็น ว12 ประมาณ 1,200 อัตรา โดยผู้มีสิทธิ์สอบนั้นต้องเป็นกลุ่มครูอัตราจ้างสอนที่ปฏิบัติหน้าที่มาไม่น้อยกว่า 3 ปี และเปิดโอกาสให้ไปสอบคัดเลือกลงในเขตพื้นที่การศึกษาใดก็ได้ ที่ได้รับการจัดสรรอัตราสอบคราวนี้ ส่วนวิชาเอก ที่เปิดสอบนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่จบการศึกษาในสาขาบริหารธุรกิจ บริหารการท่องเที่ยว ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู มีสิทธิ์สอบด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีการเรียกร้องจากกลุ่มนี้ที่ปฏิบัติการสอนอยู่ในสถานศึกษา โดยปัจจุบันมีผู้ที่จบในสองสาขาวิชาเอกนี้ประมาณ 2 พันคน 

วิพากษ์ข่าวนี้สักเล็กน้อยครับ ในมุมมองหนึ่ง ระบบน่าจะมีการจัดการความรู้เพื่อดึงความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากบุคคลากรเหล่านี้เก็บไว้ถ่ายทอดสู่ระบบ ไม่ให้หายตายจากไปเพราะการเกษียณ และส่งเสริมให้เข้าถึงการจัดการความรู้ของ gotoknow   ซึ่งปัจจุบัน การจัดการความรู้ หรือ KM ได้เริ่มมีการนำมาใช้และยุกต์กับองค์กรแล้ว แต่จุดเด่นที่มองเห็นในตอนนี้คือ ครูสามารถจัดเก็บความรู้แบบ vedio media ง่ายๆ โดยใช้ โทรศัพท์ บันทึกความรุ้ของตัวเอง และสามารถเผยแพร่ แชร์ต่อได้โดยใช้ Social Network หรือจัดเก็บไว้ใน Youtube ซึ่งต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา บางมหาวิทยาลัยเช่าพื้นที่ของ youtube เปิดการเรียนรู้แบบออนไลน์ และระดมทรัพยากรมาใช้งานในรูปแบบ Clound  คือ ทุกอย่างอยู่ในอากาศ และนำมาใช้ได้เพียงต่ออินเตอร์เน็ต

Wednesday, September 26, 2012

ฐานข้อมูลทำวิทยานิพธ์ ฐานข้อมูล

ฐานข้อมูลทำวิทยานิพธ์ ฐานข้อมูล

ฐานข้อมูล CMU e-Theses
สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ฐานข้อมูลวิจัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ฐานข้อมูลวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ฐานข้อมูลวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ฐานข้อมูล Thai Library Integrated System (ThaiLIS)
ฐานข้อมูล มหาวิทยาลัยศิลปากร
ฐานข้อมูล กรมทรัพย์สินทางปัญญา
ฐานข้อมูลวิจัย สุโขทัยธรรมาธิราช
ฐานข้อมูล วิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ฐานข้อมูล วิจัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ฐานข้อมูล วิจัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


refferrent :http://kruyong.wordpress.com

แนวโน้มของการใช้ Social Media ในปี 2012


แนวโน้มของการใช้ Social Media ในปี 2012

comScore บริษัทวิจัยตลาดออนไลน์ ได้จัดทำรายงาน “It’s a Social World: Top 10 Need-to-Knows About Social Networking and Where It’s Headed” บอกถึงแนวโน้มของการแสดงตัวตนและการใช้สื่อ Social Media ที่จะเห็นชัดเจนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าทั้ง 10 ประการ
1. โซเชียลเน็ตเวิร์คกลายเป็นกิจกรรมที่ผู้ใช้เน็ตให้เวลามากที่สุด
ในปี 2011 ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต หมดเวลาไปกับการใช้บริการ Social Network คิดเป็น 19% หรือประมาณ 1 ใน 5 ของเวลาที่ผู้ใช้เน็ตล็อกอินเข้าสู่โลกออนไลน์ ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มจาก 7% เมื่อปี 2007 ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ส่วนกิจกรรมที่ผู้ใช้เน็ตใช้เวลารองลงมาคือการสื่อสาร (อีเมล+ข้อความสนทนา)
2. สัดส่วนและพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค แตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละประเทศ
ผู้ใช้เน็ตชาวสหรัฐ 98% ใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ค ในขณะที่จีนมีเพียง 53% และญี่ปุ่นมีเพียง 58% แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ก็มีสัดส่วนผู้ใช้งาน 94%
แต่ในภาพรวมแล้ว โซเชียลเน็ตเวิร์คก็เข้าถึงประชากรชาวเน็ตอย่างมาก comScore ได้สำรวจข้อมูลการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คใน 43 ประเทศ ผลคือมี 41 ประเทศที่มีผู้ใช้เน็ตใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คเกิน 85%

1 นาทีของครู 1 คน เท่ากับ หนึ่งนาทีของนักเรียนหลายคนรวมกัน

1 นาทีของครู 1 คน เท่ากับ หนึ่งนาทีของนักเรียนหลายคนรวมกัน
วันนี้อ่านเจอบทกลอนของหม่อมหลวง ปิ่น มาลากุล ผมอ่านใน Social Network  Facebook.com อยากนำมาแชร์ต่อครับ

ครูที่ดีต้องไม่ฆ่าเวลาศิษย์
สำนึกผิดทิ้งเด็กไว้ไม่ได้สอน
หนึ่งนาทีนั้นมีค่าอย่าตัดรอน
เมื่อศิษย์อ่อนจะโทษใครให้คิดดู


Tuesday, September 25, 2012

แนวข้อสอบปลายภาค ใช้ ของ Onet นะครับ

วันนี้นั่งทำข้อสอบ วิชาสุดท้ายแล้ว วันนี้แกะตัวอย่างทั้งหมด จากแนวข้อสอบ O-net ถึงปีล่าสุดนะครับ นักเรียนสามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ตนะครับ


ตัวอย่างการงานพื้นฐานอาชีพ ม.6



Sunday, September 23, 2012

PCA >> Pay Per Action สร้างรายได้ออนไลน์ จาก ค่า commission

PCA >> Pay Per Action  สร้างรายได้ออนไลน์ จาก ค่า commission

วันนี้ ผมต้องจ่ายเงินค่าโดเมนของ Godady.com ผ่านทาง paypal ซึ่งไม่ได้เข้าไปใช้บริการนานแล้ว นานจนเกือบจะลืม password วันนี้ก็ได้เรื่องเล่าอีกเรื่องครับ เกี่ยวกับการสร้างรายได้ในอินเตอร์เน็ต  วันนี้จะเล่าเรื่องการสร้างรายได้จากอินเตอร์เน็ตโดย PCA >> Pay Per Action  สร้างรายได้ออนไลน์ จาก ค่า commission นะครับ เมื่อ 3-4 ปีก่อน ผมเริ่มศึกษาเรื่องการสร้างรายได้ออนไลน์ ก็ผ่านๆแนวขายตรงมาบ้างครับแต่รู้สึกว่ามันไม่ไช่สำหรับตัวเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว เล่นเน็ตเป็นประจำ แต่ mlm ตอบโจทย์ผมไม่ได้ ผมจึงหันมาศึกษา google adsense ซึ่งก็สร้างรายได้ให้ผมมากพอควร และมาเจออีกคือ affiliate ของ amazon.com ซึ่งก็สร้างรายได้แบบงดงามเหมือนกัน ดูตัวอย่างเว็บที่ทำนะครับ http://storkcraft-hoopglider-and-ottoman-set.blogspot.com/   
ตอนนี้ก็กำลังสอนนักเรียนให้ Learn to Do,Learn to Know เกี่ยวกับ  affiliate ของ amazon.com ซึ่งก็ออกมาบ้างแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ กลับไปถึงเรื่องของ affiliate  ตัวอื่นๆนะครับ ก็มีของ Godady.com ซึ่งเป็นการขายโดเมนและHostgator.com ขายโฮส  จากสองตัวนี้ ผมลองทดสอบแล้วได้ค่าคอมมิชชั่นจริงครับ โอนเงินผ่าน paypal.com



วันนี้นานๆทีได้กลับไปรื้อของเก่า ก็ไปกันต่อเลยนะครับ ผมก็เริ่มสร้างเว็บอีกตัว และเปิด affiliate.godaddy.com   เพิ่มอีก 1 ช่องทาง

ถ้าสนใจสร้างรายได้ในอินเตอร์เน็ตแบบ PCA >> Pay Per Action  ลองศึกษาดูได้นะครับจาก google รับรองไม่มีดาวน์ไลน์ และเป็นงานสบายๆที่ใช้ทั้งความรู้และความพยายาม









Saturday, September 22, 2012

"Good Luck" หากต้องการทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จแต่ยังติดขัดปัญหาปางประการ หนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณได้ครับ

 วันนี้ขอแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งครับ ผมเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมค้นพบอะไรหลายๆอย่าง และทำภาระกิจที่ผมนั่งมองมานานหลายปีให้สำเร็จ  หนังสือเล่มนี้อยากแนะนำให้ทุกคนอ่านครับ "Good Luck" หากต้องการทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จแต่ยังติดขัดปัญหาปางประการ  หนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณได้ครับ


ถ้าเปรียบโชคดีเป็นต้นไม้สักต้นที่เราอยากจะซื้อมาปลูก สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อต้นไม้ของเราจะได้เติบใหญ่  อาทิ   เตรียมดิน เตรียมกระถาง เตรียมพลั่ว เตรียมน้ำ และเตรียมสิ่งอื่นๆ ที่เหมาะสมกับชนิดต้นไม้ของเรา….. ถ้าวันนี้คุณยังนั่งถอนหายใจ เบื่อหน่ายกับความล้มเหลวของตัวเองอยู่ละก็ ผมขอแนะนำให้ตื่นมาสูดอากาศยามเช้า และหาเวลาว่างๆ ออกไปพาเจ้าหนังสือที่ชื่อ Good Luck เข้ามาในชีวิต รับรองว่าเมื่ออ่านจบแล้วคุณจะได้รับแรงบันดาลใจดีดี….  ยิ้มกว้างๆ เข้าไว้ค่ะ โชคดีนะครับ

กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 1: โชคนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเรา แต่โชคดีเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นมันจะคงอยู่ตลอดไป
กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 2: คนที่อยากจะมีโชคดีมีมาก แต่คนที่จะตัดสินใจไขว่คว้าหามาให้ได้มีน้อย

กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 3: หากตอนนี้คุณไม่มีโชคดี บางทีอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมยังเป็นสภาวะเดิม ๆ เพื่อให้โชคดีมาเยือน คุณจำต้องสร้างสภาวะใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น

กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 4: การเตรียมสภาวะที่เหมาะสมสำหรับโชคดี ไม่ได้หมายความว่าให้หาผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์ด้วย จะนำโชคดีมาให้

กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 5: หากผัดผ่อนการเตรียมสภาวะที่เหมาะสม “ไว้วันหน้า” บางทีโชคดีอาจจะไม่มาเยือนเลย การสร้างสภาวะที่เหมาะสม ต้องมีก้าวแรก…เริ่มก้าวเสียแต่วันนี้

กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 6: แม้ในสภาวะที่ดูเหมือนว่าพร้อมแล้ว บางครั้งโชคดีก็ไม่มาเยือน จงมองหารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สภาวะที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่จำเป็น…แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

กฏแห่งความ โชคดีข้อที่ 7: คนที่เชื่อแต่เรื่องโชคจะเห็นว่า การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเป็นเรื่องไร้สาระ คนที่ลงมือสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้เกิดขึ้น จะไม่กังวลเรื่องโชค

กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 8: ไม่มีใครขายโชคได้ โชคดีนั้นไม่มีขาย จงอย่าเชื่อใจผู้เสนอขายโชค

กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 9: เมื่อได้สร้างสภาวะที่เหมาะสมทุกประการแล้ว จงอดทนรอ อย่าละทิ้งไป เพื่อให้โชคดีมาเยือน จงเชื่อมั่น

กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 10: การสร้างโชคดีก็คือ การเตรียมสภาวะแวดล้อมให้พร้อมสำหรับโอกาส แต่โอกาสไม่ใช่เรื่องของโชค หรือความบังเอิญ โอกาสมีอยู่ตลอด

บทสรุป…การสร้างโชคดีก็คือ .. การสร้างสภาวะที่เหมาะสม เท่านั้นเอง ! เพราะการสร้างโชคดีคือ การสร้างสภาวะที่เหมาะสม ความโชคดีจึงขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็สามารถสร้างโชคดีได้! และจงจำไว้ว่า…นิทานเรื่องโชคดี..ไม่ได้มาอยู่ในมือคุณเพราะความบังเอิญ

ที่มา “GOOD LUCK” by Alex Rovira & Fernando Trias de Bes แปลโดย หนึ่งฤทัย สัมฤทธิ์ผล และ สุพัตรา พิษณุวงษ์





นอกจากความเพียรที่ยึดเป็นที่ตั้งแล้วแนวความคิดและวิธีคิดนั้นก็สำคัญมากเช่นกันครับ


หนังสืออีกเ่ล่มที่อยากแนะนำให้อ่านครับ  Wink And GrowRich  http://dl.dropbox.com/u/9621526/WinkAndGrowRich%28small%29.pdf

ลองทำข้อสอบ Utq รหัสวิชา UTQ-105 การบูรณาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อยกระดับการเรียนการสอน

วันนี้หลังจากเสร็จภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องปั่นแบบร้อนๆหลายงาน เหลืองานสบายๆอย่าง UTQ แบบทดสอบออนไลน์ กับโครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ด้วยระบบ E-learning  ซึ่งรูปแบบการอบรมแบบนี้ ขอกด Like ให้อีกรอบนะครับ แต่กว่าจะมีเวลามาทำก็ต้องรอให้โดนเร่งส่งสักหน่อย วันนี้มี 2 ใบประกาศ











วันนี้นั่งทำ ข้อสอบ  UTQ รหัสวิชา UTQ-105 การบูรณาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อยกระดับการเรียนการสอน ใครยังไม่ได้ลงสอบ ลองดูก่อนได้นะครับ ซ้อมๆไว้




รหัสวิชา UTQ-105 การบูรณาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อยกระดับการเรียนการสอน
1. ข้อใด ไม่ใช่ ยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทด้าน ICT ของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2550-2554
ก. e_Service
ข. e_Learning
ค. e_Manpower
ง. e_Management

Friday, September 21, 2012

กีฬา สพฐ และกีฬานักเรียนจังหวัดเพชรบูรณ์ 2555

กีฬา สพฐ และกีฬานักเรียนจังหวัดเพชรบูรณ์ 2555

                             http://www.facebook.com/subbonwittayakhom
การแข่งขันกีฬา กีฬา สพฐ และกีฬานักเรียนจังหวัดเพชรบูรณ์ 2555 เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน -วันพฤหัสบดี ที่ 20 กันยายน 2555 รวมเวลาการทำการแข่งขัน 5 วัน ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้พานักเรียนไปแข่งกีฬาในครั้งนี้ ออกจากโรงเรียน 7.00 น.กลับมาถึงโรงเรียนอีกครั้งหลังจากส่งนักเรียนถึงบ้าน เวลาก็เลยเข้าไป 22.00 น. เกือบทุกวัน แต่การเข้าไปคลุกคลีรับส่งนักเรียนก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะครับ และเห็นสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียนแล้วสงสารนักเรียนมาก บางคนอยู่กับ ตา ยาย  บางคนอยู่กับน้องสองคน ซึ่งผมรู้สึกว่านักเรียนของผมลำบากมากในการใช้ชีวิตประจำวัน สรุปผลการแข่งขัน ซับบอนวิทยาคม ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 9 ทีม ได้เหรียญทอง 3 เหรียญ เหรียญเงิน 1 เหรียญ และเหรียญทองแดง 1 เหรียญ  แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความภูมิใจอยู่ตรงที่มีเวทีให้นักเรียนแสดงความสามารถและค้นหาทักษะที่ตัวเองถนัด  วันนี้ ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทุกๆคนนะครับ และหลังจากนี้ต้องเตรียมตัวไปแข่งระดับภาค 

คลิปการแข่ง

Thursday, September 20, 2012

ความรู้เนื้อหาผนวกวิธีสอน (Pedagogical Content Knowledge, PCK)

ความรู้เนื้อหาผนวกวิธีสอน (Pedagogical Content Knowledge, PCK)  

วันนี้อ่านในเฟสบุ๊คของ ครูกอบวิทย์  และลองศึกษาเรื่อง การจัดการเรียนการสอน แบบ pck  เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจนะครับ แต่วันนี้ดูเหมือนผมจะยังไม่ว่างเท่าไหร่ ขึ้นหัวข้อไว้ก่อนนะครับ พร้อมกับลิงค์ การจัดการเรียนการสอน แบบ pck   และงานวิจัย ที่ีน่าในใจเกื่ยวกับ การจัดการเรียนการสอน แบบ pck  ออกข้อสอบปลายภาคก่อน พรุ่งนี้ต้องเสนอหัวข้อวิจัย กำลังยุ่งสุดๆครับช่วงนี้

Tuesday, September 18, 2012

Project Base Learning การเรียนการสอนเพื่อนำความรู้มาประยุกต์สร้างชิ้นงาน

Project Base Learning  การเรียนการสอนเพื่อนำความรู้มาประยุกต์สร้างชิ้นงาน
วันนี้พาเด็กนักเรียนไปแข่งกีฬาที่วิทยาลับพละและม.ราชภัฏเพชรบูรณ์ครับ กลับมาส่งเด็กถึงบ้าน สามวันติดต่อกัน 4 ทุ่มกว่าเกือบทุกวัน วันนี้เปิด Facebook เจอ อะไรที่โดนๆแบบนี้ครับ
ถ้าอาชีพของผม คือ วิศวกร  ผมคงไม่ต้องสนใจกับตัวอักษรที่โพสแชร์ในเฟสบุ๊คแบบนี้นะครับ แต่วันนี้อาชีพที่ยึดเป็นสัมมาชีพคืออาชีพครู  จึงต้องมาของวิจารณ์กันสักเล็กน้อย แต่ด้วยความเคารพในองค์ความรู้ที่สั่งสมมาของระบบการศึกษาไทยนะครับ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับข้อความด้านบน ร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ไม่ได้คัดค้านร้อยเปอร์เซ็นเช่นกันครับ


              ผมเคยศึกษาเรื่อง Project Base Learning  ซึ่งภาษาที่ผมเข้าใจกับ ความหมายที่ค้นได้ในอินเตอร์เน็ตมันอาจแตกต่างกันนะครับ แต่ สำหรับ นักศึกษาวิศวะเกือบทุกสาขา ก่อนจบการศึกษาชั้นปีที่ 4 ต้องทำ Project คือ นำความรู้ที่ตัวเองได้ศึกษารวมถึงการฝึกประสบการณ์งานในบริษัทนำมาประกอบกันและสร้างชิ้นงานซึ่งเราเรียกรวมกันว่า Project สำหรับผมนั้นผมมองว่า ตอนที่ผมทำ Project นั้น ผมได้ใช้ความรู้ สืบค้น ออกแบบ และเดินเข้าหาแหล่งความรู้ต่างๆมากมาย ซึ่งทำให้ได้องค์ความรู้ใหม่ที่เหมาะสมกันหัวข้อการทำงาน หรือหัวข้อการวิจัยของผม และ วันที่ผมมาเป็นครูสอนสายสามัญของ สพฐ  ในระดับมัธยม ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปเมือตอนที่ผมเป็นนักศึกษา ความรู้และประสบการณ์การเรียนในรูปแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาตามข้อความด้านบนได้หรือไม่ และเราที่เป็นครู สพฐ จะสามารถจัดรูปแบบการศึกษา แบบ Project อย่างที่ผมเคยทำมาได้หรือไม่  หรือ บางแห่งเรียกว่าการทำ IS นะครับ  ซึ่งหลายๆที่ได้เริ่มสนับสนุนให้ทำกันแล้ว โจทย์สำหรับผม คงมีเครื่องหมาย ????????????????????????????????????   อีกมากมายนะครับ เขียนเอาไว้ก่อนกันลืม เพราะตอนนี้การสอนในรูปแบบโครงงานหรือ  IS หรือ Project ผมก็เริ่มนำมาใช้แล้วเช่นกัน วันข้างหน้าผมอาจมีความรู้ที่มากกว่านี้มาเขียนนะครับ แต่วันนี้ขอตั้งโครงจากความหลังเมื่อครั้งเป็นละอ่อนนักศึกษาก่อนนะครับ วันนี้ขอแต่นี้ก่อน เดี๋ยวโพสหน้ามาเขียนต่อ

Monday, September 10, 2012

พ่อรวยสอนลูก สร้างความได้เปรียบทางการเงิน (UNFAIR ADVANTAGE)

พ่อรวยสอนลูก สร้างความได้เปรียบทางการเงิน (UNFAIR ADVANTAGE)
หนังสือดีที่แนะนำให้อ่าน เพื่อความได้เปรียบด้านการเงินครับ



Unfair Advantage
ผู้เขียน : Robert T.Kiyosaki
แปล :
  จักรพงษ์ เมษพันธุ์
สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น
หน้า : 384 หน้า
ค้นหาความรู้ทางการเงิน ที่คุณไม่มีวันได้เรียนรู้จากโรงเรียน
งานเขียนใหม่ ของโรเบิร์ต คิโยซากิ ที่ท้าทายผู้คนทั่วโลกให้หยุดยอมรับกับชะตาชีวิตทางการเงินอันสุดแสนจะเลวร้าย
ความรู้ทางการเงินที่แท้จริงคือ หนทางในการสร้างชีวิตในแบบที่คุณต้องการ เพื่อตัวคุณเองและครอบครัว สิ่งเดียวที่คุณต้องเปลี่ยนคือ สิ่งเดียวที่คุมมันได้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นก็คือตัวของคุณเอง
แนะนำ
การศึกษาหาความรู้ทางการเงิน เพื่อสร้าง
ความได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรม 5 ประการ
ซึ่งจะพบได้จากกระบวนการศึกษาทาง
การเงินอย่างแท้จริงเท่านั้น อันได้แก่
ความได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรม ความรู้
ภาษี หนี้ ความเสี่ยง และผลตอบแทน

บทนำ คุณรู้วิธีจับลิงไหม13
บทที่ 1 ความได้เปรียบทางการเงิน #1 : ความรู้43
บทที่ 2 ความได้เปรียบทางการเงิน #2 : ภาษี89
บทที่ 3 ความได้เปรียบทางการเงิน #3 : หนี้131
บทที่ 4 ความได้เปรียบทางการเงิน #4 : ความเสี่ยง171
บทที่ 5 ความได้เปรียบทางการเงิน #5 : ผลตอบแทน235
บทสรุป
- กรณีศึกษาสำหรับนักลงทุน269
- อัตราผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม283hh

อ่านแล้วมีไอเดียเรืองการบริหารจัดการการเงินเพิ่มขึ้นครับ

Saturday, September 8, 2012

ฉลากออมสิน การออมอีกรูปแบบ ที่น่าสนใจครับ

ฉลากออมสิน  การออมอีกรูปแบบ ที่น่าสนใจครับ   การออมเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการเงินของชีวิตนะครับ แต่ละคนจะเลือกบริหารจัดการในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งก็เป็นแนวๆที่เหมาะกับตัวเองนะครับ วันนี้ผมจะเล่าเรื่อง การออมด้วย ฉลากออมสินให้ฟังนะครับ  สำหรับผมเริ่มสะสมฉลากเป็นรายเดือน มาดูกันนะครับว่า แนวคิดในการออมแบบนี้มีอะไรบ้าง




สลากออมสินคืออะไร?

สลากออมสิน เป็นรูปแบบหนึ่งของการออมทรัพย์
ที่ให้คุณฝากเงินกับทางธนาคาร รับดอกเบี้ยตาม
อัตราที่กำหนด พร้อมมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลต่างๆมากมาย
แบบคุ้มแล้วคุ้มอีก ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเป็นเอกลักษณ์
เฉพาะของธนาคารออมสิน




ตรวจรางวัลสลากออมสิน

ตรวจรางวัลสลากออมสินจากเลขรางวัลบนสลากออมสินของคุณได้ที่นี่


ตัวอย่างการซื้อสลากออมสินพิเศษ 3 ปี

สลากออมสินพิเศษ 3 ปี จำหน่ายราคาหน่วยละ 50 บาท

การลุ้นรางวัล

ธนาคารออมสินจะทำการออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 3 ปี ณ ธนาคาร
ออมสินสำนักงานใหญ่ ทุกวันที่ 16 ของเดือน ในกรณีของผู้ที่ซื้อสลาก
ออมสินพิเศษ 3 ปี จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 36 ครั้ง ตลอดอายุการฝาก 3 ปี
สามารถตรวจรางวัล และดูผลการออกรางวัลได้ที่นี่

เป็นเจ้าของสลากออมสินได้ง่ายๆ

สามารถซื้อสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาและ
เตรียมการดังต่อไปนี้
  1. บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อใช้เปิดบัญชีเผื่อเรียกกับธนาคาร
    ออมสิน (กรณีมีบัญชีเผื่อเรียกกับธนาคารอยู่แล้ว ให้เตรียม
    สมุดบัญชีธนาคารมาแทน)
  2. เปิดบัญชีเผื่อเรียกกับธนาคารออมสิน เพื่อรับเงินโอนเข้า
    บัญชีอัติโนมัติ (กรณีที่ถูกรางวัล)

วันนี้ว่าด้วย affiliate-program.amazon.com กับการ แชร์ขายสินค้าผ่าน facebook และ twitter

วันนี้ว่าด้วย affiliate-program.amazon.com  กับการ แชร์ขายสินค้าผ่าน facebook และ twitter

หลังจากที่ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ amazon ไป สามบทความเพื่อใช้เป็นแนวทางการศึกษา
สร้างรายได้จาก Amazon.com
1.เริ่มสมัคร Amazon Affiliater เพื่อนำสินค้าของ Amazon มาขายในเว็บบล็อกของเรา
2.นำสินค้าจาก amazon มาติดในเว็บบล็อก
3.การนำสินค้าใน amazon.com มาติดในเว็บบล๊อก แบบ ครั้งละสินค้า หรือแบบ Product Links 

วันนี้น่าจะเป็นบทความเรื่องที่ 4 ซึ่งนักเรียนที่เรียนกับผมเริ่มนำ สินค้าจาก amazon.com มาติด widgets ในเว็บบล๊อกแล้ว ในส่วนของการเรียนการสอนลักษณะนี้ ผมบูรณาการณ์นิดหน่อยกับวิชาภาษาอังกฤษครับ เนื่องจากการสมัครเกือบทั้งหมดเริ่มต้นด้วยภาษาอังกฤษและลงท้ายด้วยภาษาอังกฤษ ขายสินค้าให้ฝรั่งโดยตรงครับ นักเรียนได้ประสบการณ์ตรงแน่นอน



เริ่มทำกันเลยนะครับ กับการนำสินค้าจาก amazon.com ไปขาย โดยใช้เทคนิคการนำเสนอสินค้าผ่าน Socail Network  Facebook.com และ twitter.com ซึ่งขั้นตอนการทำก็ง่ายๆ ดังนี้ครับ


1. login   affiliate-program.amazon.com  แล้วจะเข้าไปหน้านี้ครับ



หน้า login   affiliate-program.amazon.com




2.พิมพ์คำว่า ipad ลงในช่องค้นหา จะเจอสินค้าที่มีใน amazon.com เลือกมา 1 ชิ้นที่ต้องการครับ ตามภาพด้านบน




3.หลังจากคลิกเข้าไปแล้ว ก็จะเป็นหน้ารายละเอียดสินค้าแบบด้านบนครับ กด แชร์ facebook และ twitter ได้เลย ตามภาพด้านบนครับ





เท่านี้แหละครับ เราก็สามารถขายสินค้าผ่าน Facebook และ twitter ให้กับคนทั่วโลกได้แล้ว  นั่งอยู่ในเมืองไทย ในห้องเรียน แต่ขายของได้ทั่วโลก  มาลองดูนะครับ และติดตามชมผลงานของนักเรียน กับหลักสูตรบูรณาการณ์ที่ผมสอนให้นักเรียน Around The Word  ห้องเรียนที่เปิดออกรอบโลก เวอร์ชั่นทดลองสอนของซับบอนวิทยาคม โดย ครูวีรชาติ มาตรหลุบเลา

Friday, September 7, 2012

POSDCoRB

 Luther Gulick ปรับต่อยอดเป็นที่รู้จักกันดีในตัวอักษรย่อที่ว่า “POSDCoRB” กลายเป็นคัมภีร์ของการจัดองค์การในต้นยุคของศาสตร์การบริหารซึ่งตัวย่อแต่ละ ตัวมีความหมายดังนี้ 
1. การวางแผน (Planning) 
2.การจัดองค์การ( Organizing) 
3. การจัดคนเข้าทำงาน( Staffing ) 
4. การสั่งการ (Directing) 
5. ความร่วมมือ (Coordinating) 
6. การรายงาน (Reporting) 
7. งบประมาณ (Budgeting) 



ภาวะผู้นำแบบสร้างสรรค์


ภาวะผู้นำแบบสร้างสรรค์

รศ.สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์
       บทความนี้เรียบเรียงจากข้อเขียนเรื่อง The Principal as Chief Learning officer : The New Work of Formative Leadership ของ Ruth Ash และ Maurice Persall แห่ง Samford University สหรัฐอเมริกา ผู้เรียบเรียงเห็นว่าข้อเขียนดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารการศึกษาไทยบ้างไม่มากก็น้อย จึงขอนำเสนอต่อไปนี้
      ในยุคเศรษฐกิจสารสนเทศพบว่า องค์กรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจะต้องดำเนินธุรกิจที่ใช้ความรู้เป็นฐาน (Knowledge-based) ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร ในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ทำให้สถานศึกษาจำเป็นต้องปรับตัวเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง (True learning organization) เป็นที่ซึ่งสร้างความท้าท้ายให้กับผู้เรียนให้หันมาสนใจกับกิจกรรมทางวิชาการ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซึ่งครูผู้สอนร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้บริหารในเรื่องการเรียนจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่และกลยุทธ์การสอนที่มีประสิทธิ ผลที่สุดเข้ามาใช้ในการจัดการศึกษา

เช่นเดียวกัน ในโลกที่สถานศึกษาต้องเป็นองค์กรที่ใช้ความรู้เป็นฐานเช่นนี้ ผู้นำต้องมีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมคุณภาพของการคิด (Quality of thinking) ของทุกคนที่รวมกันเป็นชุมชนของโรงเรียน ลดเลิกการบริหารแบบควบคุมสั่งการให้น้อยลง แต่หันมาสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความสามารถของครู และบุคลากรให้คนเหล่านี้กลายเป็นผู้นำที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าและนำการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีผลงานที่สร้างสรรค์

การสร้างวัฒนธรรมใหม่และการปรับปัจจัยเกื้อหนุนต่าง ๆ ของโรงเรียนที่ทำให้ทุกคนสามารถแสดงภาวะผู้นำได้อย่างกว้างขวาง ทั่วทั้งโรงเรียนจึงเต็มไปด้วยผู้นำ (“leader – full” organization) แนวคิดดังกล่าวจะบรรลุผลได้ก็ต่อเมื่อผู้นำสูงสุดของโรงเรียนจะต้องมีแนวคิดใหม่และทักษะภาวะผู้นำใหม่ กล่าวคือโรงเรียนแบบเก่าส่วนใหญ่ยังบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ ตัดสินใจสั่งการจากบนสู่ล่าง (Top – down) และให้คุณค่าความสำคัญสูงในเรื่อง “ความมีประสิทธิภาพ” (Doing things right) มากยิ่งกว่าเรื่อง “ความมีประสิทธิผล (Doing the right thing) นิยมชมชอบต่อการรักษาสถานภาพเดิม (Maintaining the status quo) ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการทำเช่นนั้นไร้ประสิทธิภาพ มีผลดีเพียงน้อยนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันที่โรงเรียนต่างเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่มีความซับซ้อน ไม่ชัดเจนและขาดความแน่นอน ผลเสียอย่างใหญ่หลวงจึงตกกับโรงเรียนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ในศตวรรษที่ 21 นี้ เศรษฐกิจแบบสารสนเทศเป็นฐานทั่วโลกเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราความเร็วสูง ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมีความจำเป็นต้องมีพนักงานที่มีฝีมือระดับสูง (High performance employees) จำนวนมาก ทุนทางปัญญา หรือ Intellectual capital จึงกลายเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดขององค์กรและของประเทศชาติ กล่าวคือ ชาติใดที่ทุ่มเททรัพยากรและให้ความสำคัญสูงในการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพของเยาวชน ย่อมประกันได้ว่าชาตินั้นจะมีระดับความสำเร็จทางเศรษฐกิจสูงอย่างแน่นอน ดังนั้นภาวะท้าทายต่อผู้นำทางการศึกษาก็คือ จะทำอย่างไรให้เด็กทุกคนมีระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการอยู่ในระดับสูง แทนที่เคยมีเด็กเพียงจำนวนน้อยนิดที่ประสบผลสำเร็จเช่นนั้น ปัญหาใหม่ที่เผชิญหน้าก็คือ ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ยุคศตวรรษที่ 21 แต่บรรดาโรงเรียนและวิธีสอนที่มีอยู่นั้นถูกออกแบบมาเพื่อยุคศตวรรษที่ 19 เท่านั้น

Thursday, September 6, 2012

โอกาสดีที่ครูไทยหัวใจ IT ไม่ควรพลาด!!!

โอกาสดีที่ครูไทยหัวใจ IT ไม่ควรพลาด!!!
ขอเชิญชวนครูระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั่วประเทศ ที่มีผลงานวิชาการด้านแผนการสอนร่วมกับเทคโนโลยี และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนภายในชั้นเรียน ส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันในโครงการ “Thailand Innovative Teachers Leadership Awards 2013 ”ชิงโล่รางวัลเกียรติยศ เกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณ เงินรางวัลสนับสนุนผลงาน และมีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าร่วมการประชุมระดับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและระดับโลก อีกหนึ่งรางวัลระดับชาติที่ ก.ค.ศ.รับรอง หมดเขตรับสมัคร 30 พ.ย.2555 นี้ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.pil.in.th/pil2011/3teacher.aspx
 
 

like