การเทียบหน่วยกิจ สอบครูผู้ช่วย สำหรับผู้จบไม่ตรงสาย เช่น จบวิศวะ อยากมาสอบเป็นครู

การเทียบหน่วยกิจ สอบครูผู้ช่วย สำหรับผู้จบไม่ตรงสาย  เช่น จบวิศวะ อยากมาสอบเป็นครู
 
วันนี้เห็นแนวทางการนับหน่วยกิจ ของ กคศ. ออกวันที่  17 เมษายน 2556  เรื่องแนวทางการนับหน่วยกิจ โดยสรุปคือให้นับหน่วยกิจใน transcript ทั้งหมด ผมเทียบกลุ่มฟิสิกส์จากวุฒิ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต วิศวกรรมอาหาร (วศบ.) ได้ 49 หน่วย  แต่วิศวกรรมอาหารบางที่ เป็น วิทยาศาสตร์บัณฑิต (วทบ.) หน่วยทางฟิสิกส์จะน้อยกว่าของผม น่าจะเทียบกับเอกวิทยาศาสตร์จะได้หน่วนกิจมากกว่าครับ

การเทียบหน่วยกิจ สอบครูผู้ช่วย สำหรับผู้จบไม่ตรงสาย from Weerachat Martluplao

หวังว่าโพสนี้คงเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล

การอ่านกราฟหุ้นด้วย moving average หรือ คล้ายๆกับที่เราหาค่าเฉลี่ยในคณิตศาสตร์

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมครับ ผมมีเวลาว่างๆนั่งเปิดเว็บ ทบทวนอะไรหลายๆอย่างซึ่งผมเคยศึกษามานานแล้ว แต่ระยะหลังหันมาลงทุนกับเวลาศึกษาความรู้เรื่องการเทรดหุ้นแทน วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งน่าสนใจครับ

การอ่านกราฟหุ้นด้วย moving average  นั้น ต้องใช้ประสบการณ์พอสมควร ค่อยๆศึกษาไปทีละอินดิเคเตอร์ ซึ่งน่าจะใช้เวลาสักระยะ อาจจะ 1-2 ปี ครับ (สำหรับผมนะครับบางคนอาจเร็วกว่านี้) มันเป็นการศึกษาอีกส่วนหนึ่งครับที่ทุกวันนี้ การเทรดหุ้นง่ายมากเทรดหุ้นออนไลน์ รับข่าวผ่านทางมือถือ  หลายๆคนเริ่มเล่นหุ้นจำลองที่ www.settrade.com ก็เป็นอีกช่องทางนะครับ ลองศึกษาดูแต่ปัจจุบันนี้การเทรดหุ้นง่ายมาก แต่การรักษาเงินในพอร์ตการลงทุนไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังต้องเก๋าขั้นเทพเหมือนเดิม โชคดีในการลงทุนนะครับ  การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน

ขายที่ บ้านเปลือย ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

โพสนี้ขอประกาศขายที่ดินก่อนนะครับ
บ้านเปลือย ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด  

ติดถนนคอนกรีต น้ำท่วมไม่ถึง สามารถสร้างบ้านได้เลยครับ  ที่ดินแปลงนี้ สามารถเข้าออกได้สองทางครับ ทั้งเข้าทางบ้านเปลือยและอีกทางคือบ้านหัวแฮด ทางเข้าห่างปั้ม ปตท บ้านเปลือย 300 เมตร  อีกด้าน ห่างจากโรงเรียนบ้านรอบเมือง ประมาณ 300 เมตร  ที่ดินทั้งหมด ขนาด 3 ไร่  ต้องการขาย 3 งานราคางานละ 360,000 บาทครับ  รวม 3 งาน 1,080,000 บาท   หรือถ้าทั้งหมด 3 ไร่ ราคาเหลือ งานละ  350,000 บาทครับ  ติดต่อเพิ่มเติม Tel.0801043573  ที่ดินผมเอง ขายเอง ครับ

เก็บคลิปวีดีโอ ที่นักรเรียนทำรายงานส่ง ที่พอออกมาโชว์ได้

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ผมว่างๆจากงานสอนมานั่งรวมงานที่นักเรียนทำไว้ให้เป็นหมวดหมู่ อันไหนที่พอดูดีหน่อยอับโหลดขึ้น youtube.com เผยแพร่งานสอนของตัวเองไปในตัว ซึ่งบางอย่างน่าจะเป็นประโยชน์ ครับ

การหาค่า sin cos tan อย่างง่ายๆด้วยนิ้วมือ


แผนผังความคิดไฟฟ้าสถิต

สรุปเรื่องคลื่แม่เหล็กไฟฟ้า

สรุปไฟฟ้ากระแส

Entrepreneur หลักสูตรที่ผมอยากเชียร์ให้เข้าไปในกลุ่มสาระการเรียนการสอน

Entrepreneur  สาระที่เน้นการเป็นผู้ประกอบการเรียนให้มีงานทำไม่ต้องออกมาเป็นลูกจ้าง
จากแนวโน้มที่จะยกเลิกหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ที่มี 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ มาเป็นหลักสูตรใหม่โดยเหลือ 6 กลุ่มสาระ ได้แก่ 1.ภาษาและวัฒนธรรม(Language and Culture) 2.กลุ่มสาระวิชาSTEM คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ 3.การดำรงชีวิตและโลกของงาน(Work Life) 4.ทักษะสื่อและการสื่อสาร(Media Skill and Communication) 5.สังคมและและมนุษยศาสตร์(Society and Humanity) และ 6.อาเซียน ภูมิภาคและโลก(Asean Region and World) http://www.dailynews.co.th/education/193151
             จากการแชร์ผ่าน Socail Network มามายเสียงวิจารย์ที่หลากหลาย นั่งอ่านการศึกษาของหลายๆประเทศ ทัั้งเมริการ ออสเตเรีย ฟินแลน์ ญี่ปุ่น จีน แนวทางการปรับหลักสูตรที่เห็นแชร์กันต่อๆมา มีบางข้อที่ผมถูกใจเช่น  2.กลุ่มสาระวิชาSTEM คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์   ซึ่งผมจัดไปบ้างแล้ว และนำมาแชร์กิจกรรมไว้ในเว็บบล็อกhttp://kruweerachat.wordpress.com/    แต่วันหนึ่งได้อ่านที่เพื่อนๆในเฟส แชร์กันมาเกี่ยวกันหลักสูตร ของ ฟินแลน์ ซึ่งเขาออกแบบบางสาระไว้สุดกับความคิดผมมากๆๆๆๆ คือ Entrepreneur  สาระการเรียนรู้ที่เน้นสร้างผู้เรียนเพื่อเป็นผู้ประกอบการ ซึงจากประสบการณ์การทำงานของผมเคยใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งมันต้องใช้ความรู้หลายอย่างมาบูรณาการกัน ซึ่ง ทั้งวิชา เศรษฐศาสตร์ การเงิน บัญชี การตลาด ต้องตอบโจทย์แบบเฉพาะทางมาก ผมได้เข้าร่วมโครงการ Young Entrepreneur โครงการสร้างผุ้ประกอบการใหม่ ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย ปี 3 ซึ่งตอนนั้นคัดเลือกจากการเขียนแผนธุรกิจ แผนผมเข้าอันดับ 1 ซึ่งมีกลุ่มเดียวที่หัวหน้ากลุ่มเป็นนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ นอกนั้น บริหารทั้งคณะ ผมจึงได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์ตรง ซึ่งทำให้ผมย้อนกลับไปดูและดึงคืนมาเล่าในโพสนี้ ผมคิดว่า การเรียนนั้นหลักสูตรน่าจะโฟกัสบางอย่างให้ผู้เรียนได้มากกว่าปัจจุบันนี้ ผมอยากเสนอให้ นำ Young Entrepreneur  เข้ามาเป็น 1 กลุ่มสาระเหมือนที่ฟินแลนด์ทำครับ รวมถึง การเล่นหุ้น จำลองตลาดหุ้น ตลาดทุน ซึ่งปัจจุบัน โหลดสตรีมมิ่งในมือถือ ดูข้อมูลได้แบบ Realtime ซึ่งเทคโนโลยีที่ไปไกล แม้แต่ในป่ายังมีคลื่น 3 G การเรียนการสอนของเราก็น่าจะไปอีกแนว ที่นักเรียนสามารถกำหนดได้ว่า เขาอยากเรียนอะไร โตขึ้นเขาอยากทำงานอะไร เพราะโลกการเรียนรู้ในวันนี้ มันอยู่นอกห้องเรียน การสอนแบบ Teaching จะน้อยลง  Teach Less Learn more แนวคิดนี้ก็น่าสนใจครับ

        การเรียนการสอนที่ปัจจุบันผมมองว่า เน้นสอนให้นักเรียนเรียนเพื่อออกไปเป็นลูกจ้าง ไม่ได้เรียนเพื่อให้ทำงาน หรือเรียนเพื่อสร้างงานให้ต้วเอง ซึ่ง หานักรเรียนเรียนเพื่อมุ่งออกไปเป็นลูกจ้าง หลังเรียนจบไม่มีการจ้างงาน ก็ตกงานตามสเตป แต่ถ้าเรียนเพื่อสร้างงาน เหมือน Mark Zuckerburg หรือ Steve job น่าจะน่าสนใจกว่า  เพราะวันหนึ่งที่ผมเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัยนั่นคือ วันที่ผมออกมาทำงานสู่โลกความเป็นจริง ผมก็เลยมีคำถามว่า หลายๆอย่างที่เราเรียนมา เรียนมาเพื่ออะไรเพราะบางอย่างเรียนซ่ำซากมาก  ของแบบเรียนแล้วใช้จริง เถอะครับ

แผนยุทธศาสตร์ตัวนี้ก็น่าสนใจครับ

 แต่สุดท้าย ขอเชียร์ Young Entrepreneur  เข้ามาเป็น 1 กลุ่มสาระเหมือนที่ฟินแลนด์ทำนะครับ