โลกและการเปลี่ยนแปลง

เนื่้อหาประกอบการสอน โลกและการเปลี่ยนแปลง

วันนี้สอนเรื่อง ไฟฟ้ากระแสตรง พ่วงด้วงอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์

วันนี้สอนเรื่อง ไฟฟ้ากระแสตรง พ่วงด้วงอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์  ชั้น ม.5/1 ขาดเรียนไปทำบุญกันหลายคน แบ่งกลุ่มให้ทำงาน และนำเสนอกลุ่มละ 1 โครงงาน แต่นำเสนอด้วยตนเองทุกคน ในรูปแบบคลิปวีดีโอ

บทนำ พลังงานไฟฟ้า

วันนี้สอนเรื่องบทนำ พลังงานไฟฟ้า  นักเรียนชั้น ม.5/1  ใครไม่มาศึกษาย้อนหลังได้จากคลิปนี้นะครับ

การจัดการทุนมนุษย์ (human capital management)

การจัดการทุนมนุษย์ (human capital management)

หลังจากที่ได้อ่านเรื่อง การจัดการทุนมนุษย์ (human capital management) ซึ่งนำมาเชื่อมโยงกับ การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้( Personal mastery ) ซึ่งผมศึกษาจากหนังสือ  การจัดการทุนมนุษย์

ผมศึกษาการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้( Personal mastery ) จากหนังสือเล่มนี้ถึงแม้ไม่ตรงมาก แต่เป็นการบอก ชี้นำแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาเชื่อมโยงกับการบริหารจัดการ  โดย นำ อิทธิบาท 4 มาบรรยายเพื่อ กำจัด นิวรณ์ 5 ตามลำดับ หากแปลให้เชือมโยงกันผมคิดว่า การบริหารจัดการคนเพื่อ การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้( Personal mastery ) ตามที่ผมศีกษา อิทธิบาท 4  เป็นอีกโมเดลหนึ่งซึ่งน่านำไปเสนอเพิ่มเติมในการศึกษาค้นคว้า ตอนนี้เตรียมข้อมูลไว้แล้วเหลือแหล่งอ้างอิง  

อธิบาย อิทธิบาท 4  เพิ่มเติมนะครับ

      คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน

ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง

จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่

วิมังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปัญญา ไว้อย่างเต็มที่

วันสุดท้ายของการแข่งขัน พิธีปิด กีฬา ดอกกระโดนเกมส์ 2555 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม

วันสุดท้ายของการแข่งขัน พิธีปิด กีฬา ดอกกระโดนเกมส์ 2555 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม

ดอกกระโดนเกมส์ 2555

แสงสุดท้าย วัยรุ่นพันล้าน

กรณีศึกษา การเพิ่มจำนวนผู้ชมเว็บไซต์ ด้วย Facebook Fanpage

กรณีศึกษา การเพิ่มจำนวนผู้ชมเว็บไซต์(traffic) ด้วย Facebook Fanpage

เย็นวันศุกร์ขณะที่ผมกำลังนั่งปั่นงานวิจัย 3 บท มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์ขึ้นมาทำให้ผมรู้ทันทีว่างานเข้าแน่เพราะปกติไม่เคยโทรมาและแล้วก็แจ้งวข่าวให้ทราบว่าเว็บเข้าได้เนื่องหลังจากที่ผมเข้าไปเช็คดู ตอนแรกคิดว่าอยู่ใน server ตัวที่กำลังซ่อมซึ่งใช้เวลาถ่ายโอนข้อมูลประมาณ 1 วัน แต่พอเครื่องแรกเสร็จก็ยังเข้าไม่ได้ กลับไปเช็คอีกครั้ง สรุปได้ว่า อยู่กับอีกเครื่องแต่ แบนด์วิดเกิน  ซึ่งการใช้งานเว็บในช่วงหลังเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า ผมจึงเริ่มเช็คว่าเกิดอะไรขึ้นกับเว็บ โดนแฮ็กหรือเปล่า  สรุปว่า เป็นเพราะลูกค้าเพิ่มช่องทางการทำการตลาดใหม่ เพิ่มการลงโฆษณาในเฟสบุ๊ค จึงทำให้ ยอดการเข้าชมเว็บสูงพรวดขึ้นเร็วกว่าปกติ ตัวอย่างที่ลงโฆษณาในเฟสบุ๊คครับ

 

การทำการตลาดด้วย facebook.com ของ http://www.udonhomesales.com/

ซึ่งนอกจากลงโฆษณากับ Facebook แล้ว ยังสร้างหน้า Fanpage ไว้ด้วย

 

หน้า fanpage ของ http://www.facebook.com/UdonHomeSales

 

 

 นอกจากนี้แล้วยังทำการตลาดผ่าน Google Adword และ pay per click อื่นๆ เพื่อนำลูกค้าเข้าสู่สินค้าและบริการซึ่งใช้เว็บเพจแบบธรรมดาๆ (http://www.udonhomesales.com)สร้างการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง พาลูกค้าออกดูบ้านเอง ทำให้ธุรกิจนี้เติมโตอย่างรวดเร็ว

สรุปว่า ธุรกิจนี้ กับการทำการตลาดในอินเตอร์เน็ต Social network Marketing สามารถดึงผู้ชมเข้ามาเว็บไซต์ได้จนทำให้ Server Suppend Account ได้  

เน้นย้ำอีกครั้งครับว่า  วันนี้โลกทั้งใบอยู่แค่ปลายนิ้ว เรากำลังจะเปิดประเทศสู่อาเซียน เรากำลังจะเจอการปรับตัว ที่มีทั้งวิกฤตและโอกาส เราต้องเรียนรู้กันอีกมากมาย  >>>> บทความต่อไปผมกะว่าจะเขียนเรื่อง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ซึ่งผมทำวิจัยอยู่  เชิญติดตามชมนะครับ

หลังจากเปิด AEC อาชีพอะไรจะน่าสนใจ น่าเรียน

เช้าวันนี้ผมเปิดเว็บ sanook.com เจอบทความที่น่าสนใจด้านล้างนี้นะครับ  อาชีพที่วิเคราะห์กันออกมามี 7 อาชีพ แต่ในนั้นก็มีรายละเอียดบางตัวที่ไม่ได้กล่าว และยังมีอีกหลายอาชีพ ที่ยังไปได้อีกไกล

    อาชีพวิศวกร( Engineering Services) ด้านล่างกล่าวถึง อาชีพวิศวกร( Engineering Services) แต่ผมจะเขียนเพิ่มเกี่ยวกับวิศวกรควบคุม ตามสายงานต่างๆ เช่น เครื่องกล ไฟฟ้า โยธา   ขอบกล่าว คร่าวๆกับคำว่า วิศวกร( Engineering ) ก่อนอันแรกนะครับเพราะผมเคยมีประสบการณ์การทำงานในด้านนี้มาก่อน การจะไปทำงานข้ามประเทศได้นั้น สำหรับ อาชีพวิศวกรควบคุม  จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ระดับ สามัญ ขึ้นไปนะครับ นั่นคือวิศวกรจบใหม่ หรือยังไม่ไปสอบเลื่อนระดับหมดสิทธ์  จะไปได้เฉพาะ ระดับ สามัญและวุฒิวิศวกร เท่านั้น ส่วนระดับแรก คือ ภาคีวิศวกร จะไม่สามารถไปได้ 

     ในสภาวิศวกร จะมีการทำ CPD การอบรมปรับปรุงวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง นับชั่วโมงการสอบ การปฎิบัติงาน และการร่วมปฎิบัติงาน  รวมถึง งานวิจัยร่วมเป็นตัวคูณแฟคเตอร์ด้วย 

      แต่อาชีพที่น่าดีอีกอาชีพหนึ่งเท่าที่เคยทำงานมาคือ เกี่ยวกับสุขภาพ (helf complex)  ซึ่งตอนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เช่น ในด้านทันตะ ฝรั่งขึ้นเครื่องบินมาทำรากฟันที่ไทย ทำไปเที่ยวไป  7 วันบินกลับบ้าน เบ็ดเสร็จจ่ายน้อยกว่าอยู่ประเทศเขา แต่อยู่ไทย สบายจ่ายแค่นิดเดียว 

มาถึงตอนนี้ ทุกคนคงจะรู้จัก AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกันมาพอสมควรแล้ว (อ่านต่อ : AEC คืออะไร)

เมื่อมี AEC เกิดขึ้น 7 อาชีพแรก ที่มีข้อตกลงกันแล้ว ให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างเสรี จะมีอาชีพอะไรบ้าง ลองมาดูกัน

AEC หรือ Asean Economics Community คือการรวมตัวของชาติในอาเซียน 10 ประเทศ

ได้แก่ ไทย พม่า ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บรูไน

จากผลจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดให้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs)

ด้านคุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายนักวิชาชีพ หรือแรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษของอาเซียนได้อย่างเสรี ด้านคุณสมบัติในสาขาอาชีพหลัก

เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย นักวิชาชีพ แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษได้อย่างเสรีข้อตกลงเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือไปทำงานในประเทศกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้อย่างเสรี

สำหรับ 7 อาชีพอาเซียนที่โดดเด่น มีดังนี้

อาชีพวิศวกร( Engineering Services)

อาชีพพยาบาล (Nursing Services)

อาชีพสถาปนิก(Architectural Services)

อาชีพการสำรวจ (Surveying Qualifications)

อาชีพนักบัญชี (Accountancy Services)

อาชีพทันตแพทย์ (Dental Practitioners)

อาชีพแพทย์ (Medical Practitioners)

การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรีในกลุ่ม 7 อาชีพนั้น มีผลดีต่อไทยไม่น้อย เพราะในภาพรวม สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในไทยมีศักยภาพในด้านการผลิตบุคลากรในสายวิชาชีพทั้ง 7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ซึ่งทำให้ผู้จบการศึกษาในสายวิชาชีพทั้ง 7 ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอกมีตลาดงานที่เปิดกว้างมากขึ้น

แต่แน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาตามมา ก็คือ ในบางสาขาวิชาชีพไทยเริ่มจะเข้าสู่วิกฤตการขาดแคลนอาจารย์ เช่น ทันตแพทย์ จึงเป็นอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และให้ความสำคัญ

และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อาจจะมีผู้มาจากประเทศอื่นที่มาประกอบอาชีพในไทยมีปัญหาความอ่อนด้อยในเรื่องมาตรฐาน ซึ่งถ้าดูแลไม่รอบคอบรัดกุม

อาจก่อเกิดผลกระทบกับสังคมไทยในทางลบ และอาจส่งผลต่อปัญหาการประกอบอาชีพของคนไทยเอง

ร่วมติดตามข่าวสาร และไอเดียสุดเจ๋ง เรื่อง ธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจ SME กับเราได้ที่นี่ http://money.sanook.com 

ฟังเพลงลำเต้ย 3 จังหวะ เสียงแคนแบบพื้นบ้าน ปี 2555 ครับ

แคน เป็นดนตรีพื้นเมืองของอีสาน ที่ผมได้มีโอกาสสืบทอดศิลปวัฒนธรรมนี้ไว้  วันนี้ขอแชร์และส่งต่อ ความรู้ และเสียงแคน สู่โลกออนไลน์ครับ


เสียงแคน แดนอีสาน

วันนี้กลับมาบ้านที่ร้อยเอ็ด มีเวลาอยู่บ้านสองวัน  ยังไม่หายคิดถึงบ้าน ต้องกลับไปทำงานในวันพรุ่งนี้
วันนี้ว่างๆได้เวลากำลังดี เป่าแคนให้ตายายฟัง (พร้อมกับนำ Tablet ไปให้หลานๆลองเล่น ซึ่งคลิปนี้อัดจาก Tablet ที่ผมใช้นะครับ) ย้อนยุคเสียงเพลงแดนอีสาน ซึ่งนานแล้วที่ไม่ได้เล่นดนตรี มาถึงวันนี้ ภูมิใจลึกๆที่ได้สืบทอดศิลปวัฒนธรรมนี้ไว้

หลังจากที่อัดคลิปลำเต้ย 3 จังหวะเสร็จ ไอเดียเล็กๆ ก่อนเก็บกระเป๋าขับรถมาเพชรบูรณ์ก็เกิดขึ้น  >>>  จะทำอีกสักคลิป ฝึกตั้งแต่เริ่มเป่า โด เร มี เลยดีหรือเปล่า  แต่เป็นสิ่งที่น่าทำมากๆครับ เย็นนี้ อาจทำไว้สักคลิป  เผื่อความรู้ที่ผมมีจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆในโลกออนไลน์

ด้านบนเป็นคลิปเสียงแคนส่วนด้านล่างเป็นโน๊ตที่้ใช้เล่นครับ  ลำดับการเป่าแคนในคลิปนี้ จะเป็น เต้ยธรรมดา เต้ยโขง และเต้ยพม่ารำขวัญ ตามลำดับ

เพลงเต้ยธรรมดา ( ลายใหญ่ )

-  -  -  ลฺ	-  ด  ฺ-  ร	-  ม  ร  ดฺ	-  ล  ฺล  ฺลฺ	-  -  -  -	-  ซ  ม  ซ	-  ซ  ม  ดฺ	ร  ม  ซ  ม
-  -  -  -	-  ล  -  ม	ซ  ล  ด  ํล	ซ  ม  ร  ม	-  ม  ซ  ร	-  ด  ฺล  ฺดฺ	-  ด  ฺ-  ร	-  ม  -  ซ
-  ซ  -  ดฺ	ร  ม  ซ  ม	-  ม  ซ  ร	-  ด  ฺล  ฺดฺ	-  ซ  -  ดฺ	ร  ม  ซ  ม	-  ม  ซ  ร	ด  ฺล  ฺ-  ดฺ
-  ล  -  ม	-  ม  ซ  ร	-  ด  ฺ-  ร	ม  ซ  ฺ-  ลฺ	-  -  -  -	-  -  -  -	-  -  -  -	-  -  -  -

โน้ตเพลงลายเต้ยโขง ( ลายใหญ่ ) 

-  -  -  -	-  ม  -  ล	-  ล  -  ซ	-  ม  -  ล	-  -  -  ซ	-  ด  ํ-  ล	-  ล  -  ซ	-  ม  -  ล
-  -  -  -	-  ม  -  ล	-  ล  -  ซ	-  ม  -  ล	-  -  -  ซ	-  ด  ํ-  ล	-  ล  -  ซ	-  ม  -  ล
-  -  -  -	-  ซ  -  ม	-  ม  -  ร	-  ด  ฺ-  ม	-  -  -  ร	-  ซ  -  ม	-  ม  -  ร	-  ด  -  ลฺ
-  -  -  ด	-  ร  -  ม	-  ร  -  ด	-  ซ  ฺ-  ลฺ	-  -  -  ด	-  ร  -  ม	-  ร  -  ด	-  ซ  ฺ-  ลฺ

โน้ตเพลงายเต้ยพม่า ( ลายใหญ่ ) 

-  -  -  -	-  ล  -  ทํ	-  ล  -  ทํ	-  ล  -  ซ	-  ล  -  ซ	-  ท  ํ-  ล	-  ซ  -  ดฺ	-  ร  -  ม
-  -  -  -	-  ล  -  ทํ	-  ล  -  ทํ	-  ล  -  ซ	-  ล  -  ซ	-  ท  ํ-  ล	-  ซ  -  ดฺ	-  ร  -  ม
-  -  -  -	-  -  ม  ม	-  ล  -  ซ	-  ม  -  ร	-  ด  -  ร	-  ล  ฺ-  ด	-  ร  -  ม	-  ร  -  ด
-  -  -  -	-  ล  ฺ-  ด	-  -  -  -	-  ร  -  ม	-  ซ  -  ล	-  ซ  -  ม	-  ซ  -  ร	-  ร  -  ร
-  -  -  -	-  ล  -  รฺ	-  -  -  -	-  ล  ฺ-  ทฺ	-  ล  ฺ-  ซฺ	-  ล  ฺ-  ทฺ	-  ร  -  ด	-  ท  ฺ-  ลฺ
-  -  -  -	-  ล  -  รฺ	-  -  -  -	-  ล  ฺ-  ทฺ	-  ล  ฺ-  ซฺ	-  ล  ฺ-  ทฺ	-  ร  -  ด	-  ท  ฺ-  ลฺ
-  ท  ฺล  ฺซฺ	-  ล  ฺ-  ทฺ	-  ร  -  ด	-  ท  ฺ-  ลฺ	-  -  -  -	-  -  -  -	-  -  -  -	-  -  -  -

ฝึก วางนิ้ว ไล่เสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที

เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ตั้งหัวข้อโพสไว้ก่อนกันลืม

บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง from Weerachat Martluplao

การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ 5 ประการ กับ การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ตามวิถีพุทธ

อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์  ผมนั่งอ่านหนังสือ การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้  หลายๆเล่น และหลายๆรอบ หายใจเข้าออกช่วงนี้มีแต่เรื่องนี้  เรื่องอื่นขั้นเวลา และได้เขียนในบทความก่อนเกี่ยวกับงานวิจัยต่างๆเกี่ยวกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้


 ช่วงที่งานยุ่งๆ ศึกษาธรรมมะ  อิทธบาท 4 สังคหวัตถุ 4 พรหมวิหาร 4 สติปฐาน 4 และ อริยสัจ 4


Peter Senge (1990) เชื่อว่า หัวใจของการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้อยู่ที่การเสริมสร้างวินัย 5 ประการกับศาสตร์แห่งพุทธศาสนาที่น่าจะผสมผสานกับวัฒธรรมแบบไทยเราได้ดี
1.บุคลากรชั้นเลิศ (Personal mastery)   คือการมุ่งพัฒนาตนสู่ความเป็นมืออาชีพ  ซึ่งมีความหมายที่ใกล้เคียงกันกับ อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริย จิตตะ วิมังสา สามารถทำให้เกิดสิ่งนี้่ได้สบายๆ
2.มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Building shared vision) คือ การมีเป้าหมายร่วมกัน มีเป้าหมายเดียวกัน    พรหมวิหาร 4
3.มีแบบแผนความคิดร่วม (Mental models) คือ รูปแบบการคิดการแก้ปัญหา ต้องเป็นรูปแบบที่สร้างสรรค์  ควบคุมให้อยู่ในระบบเบียบได้  ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับ สติ  ต้องฝึก สติปฐาน 4
4.เรียนรู้เป็นทีม (Team learning) คือ ต้องสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ได้เด่นหรือเก่งแค่คนเดียว  ธรรมมะที่จำเป็นต้องใช้ คือ สังคหวัตุ 4   (ตัวแปรเรื่องนี้หลากหลาย พูดกันเพราะๆจะได้ไม่ต้องต่อยกัน)
5.การคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic thinking)  คือ  การคิดเป็นระบบ เชื่อมโยงส่วนย่อยต่างๆเข้าด้วยกันได้  หาเหตุผลการเกิดปัญหาได้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้น  หากเป็นธรรมคำสอนตามแนวพทธ คือ อริยสัจ 4


ธรรมมะที่จำเป็นสำหรับ การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้  มีดังนี้ครับ
1.อิทธบาท 4 
2.พรหมวิหาร 4
3.สติปฐาน 4 
4.สังคหวัตถุ 4
5.อริยสัจ 4

      ถ้ามองกลับไปถึงก่อนการตรัสรู้นั้น พระพุทธเจ้า เป็นองค์ชายที่เตรียมขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากบิดา ซึ่งเมื่องได้ตรัสรู้ธรรม ก็ได้เสด็จไปเผยแผ่ธรรมมะให้กษัตริย์แคว้นต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า น่าจะมีแนวการบริหารองค์กรอยู่ไม่น้อย ซึ่งธรรมมะที่ได้ตรัสสอนไว้นั้น ปฎิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล วันนี้มานั่งพิจารณาเชื่อมโยงแล้ว เป็นจริงทุกประการครับ

      หลังจากที่ได้ศึกษาทั้งสองศาสตร์และจากการอ่านตำราของหลายๆศาสตราจารย์ หลาย ดร.    ผมขอสรุปในมุมมองของผมนะครับ
       
      องค์การแห่งการเรียนรู้ในมุมมองของผม ต้องทำอย่างแรก คือ  อภัยทาน (สังคหวัตถุ 4)  เนื่องจากผมเห็นว่าทุกองค์การมีความขัดแย้งกันอยู่มาก  อย่างที่สอง คือ  ต้องมีพรหมวิหาร 4 มีเมตตาเป็นหลัก ตามมาด้วย กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา  ประการที่สาม สี่ ห้าต่อมา คือ สติ  อิทธบาท 4  และอริยสัจ 4   
      
      เน้นๆย้ำๆ เรื่อง อภัยทาน เป็นการทำบุญและทำทานที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา  ให้ผลได้ทันตาเห็น อย่างแรกคือสบายใจ  ไม่ทุกข์แค้นใจ



     หัวข้อธรรม อิทธบาท 4 สังคหวัตถุ 4 พรหมวิหาร 4 สติปฐาน 4 และ อริยสัจ 4  ว่างๆ จะมาเขียนต่อนะครับ
                         

รถกอล์ฟพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่

เอ็นจินีโอ ได้นำเสนอเรื่องและผลงานที่มีประโยชน์ทางด้านการประยุกต์ใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง  เพื่อเป็นแหล่งศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจด้านการประยุกต์การใช้พลังงานทดแทนให้เกิดประโยชน์ สำหรับบทความนี้  เป็นการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ใช้เพื่อชาร์ทแบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้า  เป็นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนรูปพลังงานเป็นไฟฟ้าและนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และช่วยลดมลพิษ ทางเอ็นจินีโอ ได้รับการติดต่อจาก บริษัท เดอะคลีนิคคอม เนตเวอร์ค จำกัด  ผู้ติดต่อประสานงานและมีแนวคิดที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับรถกอล์ฟ ที่มีการใช้งานที่ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ โดยความร่วมมือกับอาจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย ราชภัฏรำไพพรรณ  และได้ให้ทางเอ็นจินีโอเป็นผู้ติดตั้งระบบดังกล่าว เริ่มต้นโดยการ ตรวจสอบขนาดของรถกอล์ฟ และแรงดันไฟฟ้าที่รถกอล์ฟใช้คือเป็นแบบ 36DCV และมีพื้นที่สำหรับวางแผงโซล่าเซลล์ด้านบนหลังคาของรถกอล์ฟเพื่อความเหมาะสมจึงได้ออกแบบ โดยใช้แผงโซล่าเซลล์ขนาด 40 วัตต์จำนวน 6 แผงโดยต่อ อนุกรม 3 แผงเพื่อให้ได้แรงดันไฟฟ้า 36 DCV จำนวน 2 ชุด  และนำมาขนานกันเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าให้กับระบบ การออกแบบการจัดวางแผงโซล่าเซลล์สำหรับรถกอร์ฟ

วันนี้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระรบบการชาร์ตแบตจากพลังงานแสงอาทิตย์ 12V เพื่อนำไปใช้งานกับเครื่องตัดหญ้า

วันนี้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระรบบการชาร์ตแบตจากพลังงานแสงอาทิตย์ 12V  เพื่อนำไปใช้งานกับเครื่องตัดหญ้า  ตับอย่างการทำงานแบบคร่าวๆ น่าจะเป็นแบบนี้นะครับ

เพื่อให้ง่ายแก่ผู้ซื้อ ทางบริษัทขอเสนอราคาแยกตามลักษณะใช้งานของแต่ละระบบได้ดังนี้

มีคู่มือในการติดตั้งทุกระบบ

ชุดจิ๋ว  ขนาดจิ๋ว 5 W

  

   ราคาขายปลีก   2,974  บาท  (รวมค่าจัดส่งแล้ว)

ในชุด แผงโซล่าเซลล์ ขนาด 5 W. ประกอบไปด้วย 

     1. แผงโซล่าเซลล์ ขนาด 5 W. ชนิด Monocrystalline 1 แผง

     2. เครื่องควบคุมการชาร์จประจุ 1 เครื่อง

     3. หลอดไฟ LED  Cool White หรือ Warm White 2 หลอด

     4. แบตเตอรี่แบบแห้ง Seal Acid Lead (Free maintenance) 12 V./7.2 AH 1 ลูก  

http://renewableenergythai.com/

อาชีพนักเขียน Article Content สร้างรายได้จากการเขียนบทความ

อาชีพนักเขียน Article Content  สร้างรายได้จากบทความ   จากประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานดาน Internet Marketing ซึ่งผมอยู่ในวงการนี้มานานพอสมควรรวมเวลาแล้วอาจนับได้เกือบ 10 ปี เพราะเริ่มทำเว็บไซต์ให้กับชมรมสมัยตอนเรียนตั้งแต่ ปี 2545 เป็นต้นมา ซึ่งรวมเวลาถึงปีนี้ก็น่าจะ 10 ปี พอดี และนั่งมองพัฒนาการของ วงการเว็บไซต์เว็บบล็อกมาพร้อมกับช่วงเวลานั้น ผ่านมาถึงวันนี้ ประสบการณ์ที่มีไม่ได้ทำให้รวยขึ้นแต่ทำให้ทำงานได้อย่างมีความสุข และมีเรื่องราวมาเล่ามากมาย  อาจไม่เยอะเท่าหลายท่านที่ผมไปอ่านมา แต่ก็เล่าตามไตล์ของผมนะครับ Article Content  หรือ การเขียนบทความ นั้นแต่ก่อนที่จะมารับราชการครูนั้นผมไม่ได้สนใจมากนักเพราะส่วนใหญ่แล้วงานผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเอกสารมากมายนักแต่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้ามากกว่า ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันที่บริทบหน้าที่ที่ต้องปรับเปลี่ยนมาอยู่กับงานสอนอยู่กับนักเรียน งานด้าน Article Content จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย    เพื่อนร่วมงานของผมบางคนถามผมว่า " ทำอย่างไรเราจะมีรายได้เพิ่ม  "  ซึ่งก็ไม่ไช่เรื่องงายนะครับที่จะสร้างรายได้เพิ่มเติมในรูปแบบที่ผมทำ แต่ก็ไม่ยากเช่นกัน  เริ่มต้นจากตัวเอง ชอบเขียนบทความหรือเปล่า ชอบเล่าเรื่องหรือเปล่า  เปลี่ยนจากนินทาชาวบ้านมาเขียนบล็อกดูมั้ย  เผื่อจะช่วยสร้างรายได้เพิ่ม ผมแนะนำการสร้างรายได้จากบล็อก โดย เขียนเรื่องที่ชอบ เรื่องที่สนใจ และนำโฆษณา จาก Google.com  หรือ Adyim.com มาติดเว็บบล็อก  โดยส่วนมาก มือใหม่ ผมแนะนำให้ใช้ของ BumQ.com และ Adyim.com เนื่องจาก สมัครง่าย  กว่า Google Adsense เยอะ  แต่ถ้าอยากทราบข้อมูลมากกว่านี้ ลองค้นทำว่า  รวยด้วย Google Adsense   หรือ การสร้างรายได้จาก Google Adsense ดูนะครับ คำตอบมีมากมาย ข้อดีของการทำ Article Content คือ ทำครั้งเดียวใช้ได้เกินร้อยปี  ก็อปปี้ไปวางที่ไหนก็ได้ และถ้าจะให้ดี เอาให้สอดคล้องกับงานประจำนะครับ แบบ WinWin


ภาพด้านล่างนี้คือตัวอย่างเว็บบล็อกของผมที่ติดโฆษณาของ Google Adsense สร้างรายได้ จากตรงนี้ (ผมมีเว็บหลายเว็บนะครับ เลื่อกตาม Keyword)

http://kruweerachat.blogspot.com/

ภาพด้านล่างนี้เป็นของนักเรียนที่เริ่มนำ โฆษณาของ Adyim.com มาติด ปรับวางตำแหน่งที่คิดว่า น่าจะดีสำหรับการทำ  Article Content   เรียบร้อยแล้ว

http://hardwere002.blogspot.com/

การนำสคริปโฆณณามาติด ทำแค่ครั้งเดียวนะครับ งานต่อไปที่เหลือคือ  Article Content   เขียนบทความให้โดนใจ เขียนแบบไม่ซ้ำใคร เลือกเรื่องที่คนสนใจเยอะคู่แข่งการทำน้อย แบบนี้แน่นอนครับมีลุ้นการสร้างรายได้ที่งดงาม แบบสบายๆครับ

จะดีหรือเปล่าถ้าเราสอนเทรดหุ้น สอนการลงทุนใน Gold future ฝึกอ่านค่าทางเทคนิค วิเคราะห์แนวโน้มทางพื้นฐาน

จะดีหรือเปล่าถ้าเราสอนเทรดหุ้น สอนการลงทุนใน Gold future ฝึกอ่านค่าทางเทคนิค วิเคราะห์แนวโน้มทางพื้นฐาน  

                  อีกรอบนะครับวันนี้โพสไปหลายโพสเนื่องจากว่าอยู่หน้าคอมแบบว่างๆ และเปิดกลับไปดูงานเดิมๆประสบการเก่าๆที่เคยเล่นจริงเจ็บจริง วันนี้ เอาเรื่อง การเทรดหุ้น เล่นหุ้น เล่น Gold future ออนไลน์กันนะครับ  หลายคนอาจเคยเล่นมาแล้ว แต่อีก หลายคนอาจยังไม่เคยเล่นมากก่อน
                  ในยุคที่อินเตอร์เน็ตติดอยู่ในโทรศัพท์เช่นปัจจุบันนี้ การสื่อสารข้อมูลสารสนเทศเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ก็เช่นกัน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบ Realtime วันนี้ตั้งโจทย์แบบนี้  ถ้าสอนนักเรียนให้รู้จักการลงทุนใน ตลาดทุน เช่น Gold future  จะดีหรือเปล่า   ??????????????   คำตอบของแต่ละคนอาจหลากหลาย แต่สำหรับผม อยากสอนครับ อยากดึงเข้าหลักสูตร เพราะ วิชาการขายธรรมดาๆ ยังทำได้เลย ยังสอนกันได้ ทุกวันนี้ตลาดมันเปลี่ยน เทคโนโลยีก็เปลี่ยน การเรียนการสอนถ้ายังอยู่แบบเดิมนี่ท่าจะแย่   แต่ผมก็ไม่เสี่ยงเกินความจำเป็นมากมาย เก็บมาโพสแค่ในเว็บบล็อกก่อน ดีกว่า ถ้าสนใจก็ศึกษาได้ตามใจชอบ เล่าให้ฟังก่อนครับว่า เมื่อครั้งหนึ่งถึงปัจจุบันนี้ ผมยังคงลงทุนใน Goldfuture ซึ่งได้เสียกับการลงทุนนี้สุดๆ มันเป็นกฏของการลงทุน  ความเสี่ยงสูงผลตอบแทนสูง ภาพด้านล่างนี้ผมนำมาจากหน้าจอที่ผมเล่น เทมเพลทในการทดสอบการเทรดใช้ของเพื่อนที่รู้จักกันในกลุ่ม skype สิ่งที่ได้จากการศึกษาการเทรดคือ  ฝึกอ่านค่าทางเทคนิค วิเคราะห์แนวโน้มทางพื้นฐาน     ซึ่งในการเทรดเราจะต้องรู้หลายอย่างเช่นสามารถอ่านกราฟแท่งเทียนได้  การเล่นทางเทคนิค เราต้องอ่านกราฟได้ ใช้อินดิเคเตอร์แต่ละตัวคร่อง และแปรความหมายของมันได้  ต้องรู้ว่า อินดิเคเตอร์ มีไว้ทำอะไร  MACD RSI  BollingerBand  ADX  Moving average ต่างๆ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้มีหนังสือขายมากมาย ใน youtube.com ก็มีให้ศึกษา ไม่ไช่เรื่องยากที่จะเทรดออนไลน์เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ฝึกเทรดแบบใกล้ตัวก็ราคาทองคำนะครับ ใครสนใจ Gold future ก็ไปตามลิงค์ได้เลยนะครับ

  แต่หากต้องการความท้าทายที่มากกว่านี้ ความเสี่ยงที่สูงกว่าการลงทุนปกติกว่า 1000 เท่า  ไปลองศึกษาด้วยคำว่า รวยด้วย Forex  และลองไปที่เว็บ marketiva.com แล้วสมัครและฝึกเล่นเงินปลอมก่อนนะครับ เอาเงินปลอมให้ได้สัก 10 ล้านก่อน แล้วค่อยเล่นเงินจริง

ทำไมทำบล็อกด้วย blogger ไม่ใช้ wordpress

ทำไมทำบล็อกด้วย blogger ไม่ใช้ wordpress

           พอดีสนทนากันทาง Facebook เจอ 1 คำถามนี่อยากนำมาแชร์ต่อนะครับมีเพื่อนครูถามว่า ทำไมถึงเลือกใช้ blogger ไม่ใช้ wordpress ซึ่งดูเหมือนคนอื่นๆส่วนมากเขาใช้ wordpress กัน   ????????

            สำหรับคำตอบนี้นะครับสำหรับผมแล้วผมมองไปที่การใช้งานรวมทั้งระบบ รวมถึง อนาคตหลังจากเรียนเสร็จแล้วนักเรียนที่เรียนและมีความรู้เรื่องการสร้าง blog เสร็จตามวัตถุประสงค์การเรียนแล้ว จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้อะไรต่อได้อีก ถ้าเป็น wordpress กับ blogger มีสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเดียวคือ blogger สามารถนำ โฆษณา ของ google adsense ,BumQ,Adyim มาลงใน blog เพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเอง อาจเป็นอาชีพในการดำรงชีวิตของเขาได้เลย และอาจดีกว่า การที่เราปล่อยนักเรียนไปเสี่ยงดวงขายตรง หาดาวน์ไลน์ สู้ผมสอนวิธีการสร้างรายได้ที่ถูกต้องให้เลยจะดีกว่า โดยต่อยอดจากความรู้ในห้องเรียน นำความรู้ที่เขียนอ่าน และสิ้นสุดการสอบ กลับเข้าไปในเว็บบล็อก และสามารถประยุกต์ทำงานตามแบบสไตล์ของตนเอง  แต่สำหรับส่วนตัวผมนั้น ผมมีประสบการณ์การใช้ wordpress มานานพอสมควร อาจมากกว่า 5 ปี แต่โดยส่วนมาก อับขึ้นโฮส ไม่ค่อยได้ใช้แบบ Subdomain  

              งานต่อเนื่องที่นักเรียนสามารถสร้างรายได้จากการทำ blog ตัวอย่างเว็บบล็อกนี้นะครับ http://kruweerachat.blogspot.com/2012/10/layout.html ซึ่งออกแบบช่วยนักเรียนปรับแต่งหน้าเว็บ และวางโฆษณา ให้น่าในใจ หลังการปรับแต่งรอบแรกได้แบบนี้ ครับ http://hardwere002.blogspot.com/  กำลังรอรอบสอง 

              ส่วนความสามารถในการแทรกสคริป javascript นี้ wordpress หมดสิทธิ์ แต่ถ้าอยากได้ก็แค่จ่ายตังค์  ส่วน blogger ฟรีๆๆๆๆๆ

              แต่ wordpress ก็เจ๋งกว่าหลายอย่างเช่น แบ่งหมวดหมู่ได้ชัดเจนกว่า  Plugin แบบล้นหลาม(อันนี้เจ๋งจริงครับ เช่น wptofacebook โพสปั๊บส่งไป Facebook ทันที)  ส่วนเรื่องการทำ SEO นั้น wordpress กินขาดเร็วและแร็งแบบสุดๆ ตอนใช้แรกๆคิดว่ามันเป็นสแปมเลยแหละ โพสเสร็จมัน ping ให้เลย และก็ใช้ Feed rss เพิ่มมนต์ดำได้อีกหลายต่อ อัด Social Network ได้ทั้งพวง สอยทีร่วงทั้งหมด  ส่วนเทมเพลตก็มีให้เลือกหลากหลายถ้าจะให้ดีต้องจ่ายตังค์ ผมเคยใช้ wordpress ในช่วงที่ทำ Internet Marketing ให้กับธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ แต่วันนี้บริบทการทำงานเปลี่ยนก็เลยเปลี่ยนมาใช้ blogger 

             แต่สำหรับหน้าที่จัดเก็บความรู้จากการแสวงหาความรู้นั้น blogger ก็ทำได้ดีไม่น้อยหน้า wordpress เช่นกัน โดยเฉพาะการแทรกคลิปวีดีโอจาก youtube.com ซึ่งสะดวกมาก   แต่ผมออกแบบการสอน เพื่อให้นักเรียนสามารถพัฒนาเว็บให้สร้างรายได้ให้ตัวเองได้ ฝึกทำ Ecommerce ไปด้วย  เผื่อวันหนึ่งทีเราเปิดประเทศสู่อาเซียน  สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์ (ผมหวังว่านะ)

วันนี้ วิเคราะห์การปรับ Layout เว็บบล็อก เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของโฆษณาครับ

วันนี้ วิเคราะห์การปรับ Layout เว็บบล็อก เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของโฆษณาครับ
     ผมเริ่มสอน Social Media และการประยุกต์ใช้งานให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มต้นเมื่อต้นเทอม ตอนนี้ปิดเทอมเรียบร้อย การสอนในรูปแบบนี้อาจมีน้อยที่ที่นำเข้ามาสอนนะครับ วันนี้ส่งท้ายครอสหลังตัดเกรด กับการนำโฆษณาของ Adyim มาติดเว็บบล็อกเพื่อสร้างรายได้นะครับ

วันนี้พาไปเยี่ยมชมเว็บของ ป๊อบ 6/2  http://hardwere002.blogspot.com   ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียนในเรื่องของคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีมาก  และได้มีโอกาสถ่ายทอดความรู้ให้เยอะกว่าคนอื่นเนื่องจากมาเรียนตอนหลังเลิกเรียนบ่อยครับ  สำหรับเว็บบล็อกที่นักเรียนได้สร้างไว้ทุกบล็อกสามารถนำไปใช้ได้นะครับ ถ้าต้องการสร้างรายได้ให้เว็บบล็อกเหมือนของ ป๊อบ 6/2 ก็เริ่มได้เลยง่ายๆ โดยนำเว็บบล็อกของตัวเอง ไปสมัครที่ www.adyim.com ซึ่งรออนุมัติ 1 วัน หลังจากนั้นก็หาที่วางโฆษณาได้เลย  


       วันนี้ผมนั่งวิเคราะห์การวางโฆษณาเพื่อให้เด่นสดุดตา  เผื่อมีผู้ชมบล๊อกสนใจคลิกเข้ามาชม  ตอนนี้เพิ่ม โฆษณาลงบล๊อกเรียบร้อยแล้ว ถ้าปรับแต่งเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จ ที่เหลืออับเดทอย่างเดียว และทำเว็บเพิ่มมากขึ้น เล่น keyword  ที่สามารถสร้างรายได้ได้ดี  เท่านี้ แหละครับ เสร็จสิ้นภารกิจในการเรียนรู้แบบคะแนนเต็ม 100 ครับ  ถ้าเรียนคอมโดยตรงกับผม  เกรด 4 แน่นอน แต่เสียดายที่ผมอาจไม่ได้ได้สอน

ทฤษฎีองกรค์ หลักแนวคิดของ Michael J.Marquardt และ Peter M.Senge แบบวิถีพุทธ

วันนี้ นั่งอ่าน ทฤษฎีองกรค์ หลักแนวคิดของ Michael J.Marquardt และ Peter M.Senge เขียนไว้ลึกซึ้งมาก (personal mastery,metal model ,team learning,share vision,systematic learning) แต่เสียดายที่สองท่านนี้ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ไม่อย่างงั้น จะทำให้เรื่องนี้ง่ายกว่านี้ ซึ่ง ในศาสนาพุทธ ได้พูดเรืองนี้ไว้ แล้ว ในหัวข้อ อิทธบาท 4 สังคหวัตถุ 4 พรหมวิหาร 4 สติปฐาน 4 และ อริยสัจ 4 ได้ระลึกถึงธรรมะไปในตัว วันนี้อยากเขียนเรื่องที่ได้ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เชื่อมโยง  ระหว่างศาสตร์ทั้สองสาย   ทฤษฎีองกรค์ หลักแนวคิดของ Michael J.Marquardt และ Peter M.Senge แบบวิถีพุทธ   วันนี้รู้สึก โล่งสบายมากหลังจากทีได้ศึกษาธรรมมะ แบบพอประมาณ  ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังแบบเต็มๆนะครับ ของไปเขียนบทที่ 2-3 ก่อน

ส่งมอบธงต่อให้ G10+12 เป็นเจ้าภาพจัดงานในปีถัดไปครับ — งานเลี้ยงศิษย์เก่าวิศวกรรมแม่โจ้@หาดจอมเทียน 2555

ส่งมอบธงต่อให้ G10+12 เป็นเจ้าภาพจัดงานในปีถัดไปครับ — งานเลี้ยงศิษย์เก่าวิศวกรรมแม่โจ้@หาดจอมเทียน 2555 งานนี้ไม่ได้ไป เก็บรูปมาลงบล๊อกสักหน่อย

Solar+trimmer

Solar+trimmer
ช่วงนี้ต้องหาใบมีและชุดตัดไว้รอประกอบชุดโปรเจคนักเรียน

Solar+trimmer from Weerachat Martluplao

โครงงาน" หุ่นยนต์ทำงานแทนคน " ได้ไปแข่งต่อระดับภาคเหนือ อีก 1 รายการ

โครงงาน" หุ่นยนต์ทำงานแทนคน "  ได้ไปแข่งต่อระดับภาคเหนือ อีก 1 รายการ
                หลังจากทีรอประกาศจากสำนักนวัฒกรรมมานานพอสมควร วันนี้ ก็ได้รับข้อมูลที่ส่งมาโดย อ.จรัสพงษ์ คือผลการคัดเลือก โครงงาน "หุ่นยนต์ทำงานแทนคน" ซึ่งได้ผ่านรอบการคัดเลือกให้เข้าแข่งระดับภาคเหนือต่อไป ซึ่งการเรียนการสอนในรูปแบบโครงงานนี้ ผมอยากจัดร่วมกับการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์และวิชาอื่นๆ ซึ่งเคยเขียนเกี่ยวกับ Project Base Learning ไว้แล้วเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้ กระบวนการเรียนรู้ และได้ลงมือปฎิบัติจริง

             

                วันนี้คงต้องกลับไปรีโปรเจคให้นักเรียนใหม่เพื่อเตรียมไปแข่ง ซึ่งผมสอนที่โรงเรียนใช้สอนในชุมนุมนักประดิษฐ์ มีครูสอน ร่วมกัน อีก 2 คน คือ อ.ชำนาญ คำมี และ อ.จำรัส เพชรภักดี และกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวันวิทยาศาสตร์  ซึ่งสอนเสริมกันไปในรายวิชา ซึ่งก็มีอยู่ตามมาตรฐานการเรียนับรู้ในหลักสูตรครับ

การพัฒนาองค์การ แห่งการเรียนรู้

การพัฒนาองค์การ แห่งการเรียนรู้

        สามวันที่นั่งศึกษาเรื่อง การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้  ซึ่งได้ศึกษาทั้งจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต ได้ความรู้ไอเดียดีๆ เยอะแยะ หนังสือเรื่อง การพัฒนาองค์การ...... แห่งการเรียนรู้ เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งครับที่อยากแนะนำให้อ่าน ซึ่งใช้หลักแนวคิดของ Michael J.Marquardt และ Peter M.Senge

              ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้ สังเคราะห์เรื่อง การพัฒนาองค์การ แห่งการเรียนรู้ ซึ่งผมใช้ประกอบการทำ สารนิพนธ์ ส่วนหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถนำมาใช้กับงานในองค์กร์ได้เลย คือ วัฒนธรรมองค์กร   ซึ่งผมกำลังเริ่มศึกษาเรื่องนี้และเชื่อมโยงเข้าสู่ชีวิตจริงในการทำงาน