ปิรามิดแห่งความสำเร็จ ด้านการเรียนรู้

หลังจากที่ได้เจอภาพ ปิรามิดแห่งความสำเร็จแล้ว จึงขอสรุป ย่อๆ ปริรามิดแห่งการเรียนรู้ ดังนี้ นะครับ

1. การเรียนในห้องเรียน (Lecture) นั่งฟังบรรยาย จะจำได้น้อยกว่า 10%
2. การอ่านด้วยตัวเอง (Reading) จะจำได้เพิ่มขึ้นเป็น 10%
3. การฟังและได้เห็น (Audiovisual) เช่น การดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ จำได้ 20%
4. การได้เห็นตัวอย่าง (Demonstration) จะช่วยให้จำได้ 30%
5. การได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน (Discussion) เช่น การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันในกลุ่ม จะช่วยให้จำได้ถึง 50%
6. การได้ทดลองปฏิบัติเอง (Practice doing) จะจำได้ถึง 75%
7. การได้สอนผู้อื่น (Teaching) เช่น การติว หรือการสอน จะช่วยให้จำได้ถึง 90%

ที่ผมสังเกตภาพปิรมิดแห่งการเรียนรู้ ที่ได้ก็คือ การที่นักเรียนได้การติวให้กับเพื่อนร่วมชั้น จะทำให้เด็กจำได้ถึง 90 % รองลงมาก็คือ การทดลองปฏิบัติเอง จะจำได้ถึง 75% และ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันในกลุ่ม จะช่วยให้จำได้ถึง 50%
อ้างอิงที่มา ครูเชียงรายดอทเน็ต

       รูปแบบนี้คล้ายๆกับกรวยประสบการณ์ 10 ขั้น ของ edgar dale นะครับ
การศึกษาในศตวรรษที่ 21ที่เปลี่ยนแปลงทั้งผู้เรียนผู้สอน ทฤษฎีการเรียนรู้ การจัดการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียน น่าจะไม่แตกต่างไปมาก  แต่เทคโนโลยีน่าจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน จากที่มีประสบการณ์การสอนโดยใช้เทคโนโลยี smartphone เข้ามาช่วยในการสอนผมรู้สึกว่าการเรียนบางอย่างสนุกมากขึ้น นักเรียนสนใจมากขึ้น ผู้เรียนอยากใช้เทคโนโลยี แต่ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าอยากเรียน หรือเพราะอยากลองใช้ smartphoe หลังจากที่ผมลองใช้ android application เข้ามาร่วมสอน คือ Electrodroid มาช่วยสอนในเรื่อง การคำนวณค่าความต้านทาน และ กฏของโอมห์  ทำให้การเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์เปลี่ยนบรรยากาศการเรียนดึงดูให้เรียนมากขึ้น