วันนี้วันหยุด แวะไปชัยภูมิ เดินดูสวนยางที่บ้านปลูกไว้ กลับมาเปิดเน็ตดูหุ้น >> นี่เป็นชีวิตวันหยุดที่กำลังพอดี บางทีอยากอยู่แบบนี้นานๆ ปล่อยสมองให้โล่งและปลิวไปกับสายลม ผมโพสหัวข้อไว้ว่า ลงทุนในทรัพย์สิน มูลค่าเพิ่ม ( Value Investment) วันนี้เอาเรื่องการลงทุนมาพูดกันสักหน่อยจากเดิมที่เล่าซี่รี่การสอน วันนี้ถอดตัวเองออกมาบ้างนะครับ
ลงทุนในทรัพย์สิน มูลค่าเพิ่ม ( Value Investment) เป็้นการลงทุนด้วยทุนก้อนหนึ่งโดยมีเงื่อนไขว่า เงินลงทุนหรือทรัพย์สินที่นำไปลงทุนนั้นต้องเติมโตไปตามเวลา หรือสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่อเวลาผ่านไป อาจดูเหมือนหุ้นห่านทองคำ ที่ไขออกมาเป็นทองคำทุกวัน โดยที่เจ้าของไม่ต้องลงแรงอะไรมากมาย การสร้างทรัพย์สินมูลค่าเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งในการออมนะครับ หากปล่อยเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ เงินไม่ค่อยเติบโตแน่นอนครับ สู้อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการปลูกยากพาราผมเพิ่มข้อคิดอีก 1 ข้อนะครับ เรื่องทุน ใช้เงินลงทุนมากพอสมควร และต้องใช้เวลาถึง 8 ปี แต่ละปีมีค่าใช้จ่ายค่าปุ๋ย และแรงงาน ไร่ละ 2,000 บาทโดยประมาณ แต่เมื่อครบ 8 ปี สามารถกรีดยากได้ นาน 25 ปี ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้เรียกได้ว่า การลงทุนแบบ มูลค่าเพิ่ม ( Value Investment) แต่ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่คือราคายางไม่แน่นอน แต่ผมว่าก็ยังดีกว่าราคาข้าว แต่ช่วงหลังนี้ชาวสวนยางก็ออกมาประท้วงกันมากมาย การลงทุนก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่เหมือนเดิมแล้วแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหน รับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ ส่วนตัวผม กระจายพอสมควร แต่ที่สำคัญคือชีวิตปัจจุบันที่มีความสุขและสร้างคุณค่าให้ผู้อื่น การลงทุนมันขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ การลงทุนที่จำเป็นที่สุดเรียงลำดับ ลงทุนกับสุขภาพตัวเอง ลงทุนกับครอบครัว ลงทุนกับสิ่งที่เรารัก ลงทุนกับสังคมของเรา ที่สำคัญที่สุดต้องรู้ไว้ว่าเงินไม่ได้สำคัญที่สุด หาวิ่งตามเงิน จากวันนี้ถึงวันตาย ยังไงก็ไม่มีคำว่าพอ โพสนี้แค่นี้ก่อนนะครับ โพสหน้า เรื่องความได้เปรียบทางการเงิน กระบวนการการทำเงินที่เงินทำงานด้วยตัวมันเอง
No comments:
Post a Comment